LEO ส่งซิกผลงานโค้งสุดท้ายโตแกร่ง
อัพเดทล่าสุด: 16 ธ.ค. 2024
30 ผู้เข้าชม
LEO การันตียอดจ่ายปันผลงวดปี 2567 ใกล้เคียงปีก่อน พร้อมประเมินผลงานไตรมาส 4/67 เติบโตต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่ในเครือ เดินหน้าต่อยอดธุรกิจ Non-freight และ Non-Logistics ช่วยสร้างรายได้เพิ่มจากการขายทุเรียนไปยังประเทศจีน การขนส่งทางรถไฟทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงธุรกิจ Self Storage ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า บริษัทประเมินแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4/67 มีทิศทางที่สดใส ทำให้มั่นใจผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 4/67 คาดว่าจะเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดจากทุกๆ ไตรมาสในปี 2567 โดยเฉพาะธุรกิจ Non-freight และ Non-Logistics จะมาช่วยสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีสัดส่วนของรายได้มาเป็น 30-35% จากยอดรวมของบริษัทใน 1-2 ปีข้างหน้า
"เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลงานได้เติบโตอย่างโดดเด่นที่สุดในไตรมาส 4/67 โดยจะมีการเติบโตของรายได้และกำไรขั้นต้นจากการรับรู้รายได้ของหน่วยธุรกิจใหม่ๆ เช่น รายได้จากการส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีนของบริษัท LEO Sourcing and Supply Chain รายได้จากการขนส่งสินค้าทางรถไฟจากบริษัท LaneXang Express และ Sritrang LEO Multimodal Logistics รวมถึงรายได้จาก LEO Self-Storage โดยรายได้ของธุรกิจ Self-Storage มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3/67 มีการเติบโตถึง 98% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/66 และเมื่อเปรียบเทียบ 9 เดือนปี 2567 กับ 9 เดือนปี 2566 เพิ่มขึ้น 68% ซึ่งธุรกิจใหม่ๆ เหล่านี้จะทำให้เกิดรายได้ใหม่ๆ ของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีสัดส่วนของรายได้มาเป็น 30-35% จากยอดรวมของบริษัทใน 1-2 ปีข้างหน้า" นายเกตติวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับผลดีจากการอัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างเงินบาทและดอลล่าห์สหรัฐที่ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 33-34 บาทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากภายในสิ้นเดือนธันวาคมอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ระดับ 34 บาท บริษัทก็จะสามารถปรับรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 3/67 ให้พลิกกลับมาเป็นกำไรในไตรมาส 4/67
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีประเด็นบวกที่สนับสนุนคือ ความคืบหน้าของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของบริษัทลีโอ ซอร์สซิ่ง ซัพพลายเซน จำกัด (บริษัทย่อย) กับกรมพาณิชย์ประจำนครคุนหมิง ที่ได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เพื่อพัฒนาส่งเสริมธุรกิจและการลงทุนกับผู้ประกอบการที่อยู่ในนครคุนหมิง ซึ่งมีบริษัททยอยเข้ามาพูดคุยกับทางบริษัท เพื่อหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทได้มีการเซ็นสัญญาขายทุเรียนสด จำนวน 500 ตู้ 40 Reefer คอนเทนเนอร์ให้กับลูกค้ารายหนึ่งจากนครคุนหมิง โดยเป็นลูกค้าที่ได้รับการแนะนำจากกรมพาณิชย์ของนครคุนหมิง ทำให้บริษัทได้ลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือและมีเครดิตที่ดีมาเป็นลูกค้าของทางบริษัท
"บริษัทได้เริ่มส่งออกสินค้าทุเรียนจากไทยไปคุนหมิงผ่านรถไฟความเร็วสูงไทย-ลาว - จีน ที่ให้บริการโดยบริษัท LaneXang Express โดยสินค้าส่งออกชุดแรกได้มีการส่งออกถึงนครคุนหมิงเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคชาวจีน และมีการสั่งทุเรียนต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบทุเรียนได้ครบจำนวน 500 ตู้ภายในฤดูกาลส่งออกทุเรียนของปี 2568 (เดือนเมษายน-สิงหาคม ของทุกๆ ปี) และจะมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2-3/68"
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4/67 และภาพรวมธุรกิจทั้งปียังขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดี ทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ โดยที่ผ่านมาบริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องตามนโยบายในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทั้งหมดแล้วทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทและบริษัทย่อย ซึ่งคาดว่าจะทำให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลของปี 2567 ของบริษัทอยู่ในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกับอัตราการจ่ายเงินปันผลในปี 2566 อย่างแน่นอน
*************************
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า บริษัทประเมินแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4/67 มีทิศทางที่สดใส ทำให้มั่นใจผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 4/67 คาดว่าจะเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดจากทุกๆ ไตรมาสในปี 2567 โดยเฉพาะธุรกิจ Non-freight และ Non-Logistics จะมาช่วยสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีสัดส่วนของรายได้มาเป็น 30-35% จากยอดรวมของบริษัทใน 1-2 ปีข้างหน้า
"เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลงานได้เติบโตอย่างโดดเด่นที่สุดในไตรมาส 4/67 โดยจะมีการเติบโตของรายได้และกำไรขั้นต้นจากการรับรู้รายได้ของหน่วยธุรกิจใหม่ๆ เช่น รายได้จากการส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีนของบริษัท LEO Sourcing and Supply Chain รายได้จากการขนส่งสินค้าทางรถไฟจากบริษัท LaneXang Express และ Sritrang LEO Multimodal Logistics รวมถึงรายได้จาก LEO Self-Storage โดยรายได้ของธุรกิจ Self-Storage มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3/67 มีการเติบโตถึง 98% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/66 และเมื่อเปรียบเทียบ 9 เดือนปี 2567 กับ 9 เดือนปี 2566 เพิ่มขึ้น 68% ซึ่งธุรกิจใหม่ๆ เหล่านี้จะทำให้เกิดรายได้ใหม่ๆ ของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีสัดส่วนของรายได้มาเป็น 30-35% จากยอดรวมของบริษัทใน 1-2 ปีข้างหน้า" นายเกตติวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับผลดีจากการอัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างเงินบาทและดอลล่าห์สหรัฐที่ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 33-34 บาทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากภายในสิ้นเดือนธันวาคมอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ระดับ 34 บาท บริษัทก็จะสามารถปรับรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 3/67 ให้พลิกกลับมาเป็นกำไรในไตรมาส 4/67
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีประเด็นบวกที่สนับสนุนคือ ความคืบหน้าของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของบริษัทลีโอ ซอร์สซิ่ง ซัพพลายเซน จำกัด (บริษัทย่อย) กับกรมพาณิชย์ประจำนครคุนหมิง ที่ได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เพื่อพัฒนาส่งเสริมธุรกิจและการลงทุนกับผู้ประกอบการที่อยู่ในนครคุนหมิง ซึ่งมีบริษัททยอยเข้ามาพูดคุยกับทางบริษัท เพื่อหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทได้มีการเซ็นสัญญาขายทุเรียนสด จำนวน 500 ตู้ 40 Reefer คอนเทนเนอร์ให้กับลูกค้ารายหนึ่งจากนครคุนหมิง โดยเป็นลูกค้าที่ได้รับการแนะนำจากกรมพาณิชย์ของนครคุนหมิง ทำให้บริษัทได้ลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือและมีเครดิตที่ดีมาเป็นลูกค้าของทางบริษัท
"บริษัทได้เริ่มส่งออกสินค้าทุเรียนจากไทยไปคุนหมิงผ่านรถไฟความเร็วสูงไทย-ลาว - จีน ที่ให้บริการโดยบริษัท LaneXang Express โดยสินค้าส่งออกชุดแรกได้มีการส่งออกถึงนครคุนหมิงเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคชาวจีน และมีการสั่งทุเรียนต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบทุเรียนได้ครบจำนวน 500 ตู้ภายในฤดูกาลส่งออกทุเรียนของปี 2568 (เดือนเมษายน-สิงหาคม ของทุกๆ ปี) และจะมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2-3/68"
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4/67 และภาพรวมธุรกิจทั้งปียังขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดี ทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ โดยที่ผ่านมาบริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องตามนโยบายในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทั้งหมดแล้วทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทและบริษัทย่อย ซึ่งคาดว่าจะทำให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลของปี 2567 ของบริษัทอยู่ในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกับอัตราการจ่ายเงินปันผลในปี 2566 อย่างแน่นอน
*************************
บทความที่เกี่ยวข้อง
MEDEZE เดินหน้าขยายฐานธุรกิจ จับมือ IFCG บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและการลงทุนชั้นนำ ลงนาม MOU ในการขยายฐานตัวแทนจำหน่าย ให้คำปรึกษา พร้อมนำเสนอบริการด้านการจัดเก็บสเต็มเซลล์ เจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงของ IFCG ได้เพิ่มอีกกที่มีตำนวนมากว่า 50,000 ราย
17 ม.ค. 2025
MASTER ย้ำพื้นฐานไม่เปลี่ยน แจงผู้บริหารขายบิ๊กล็อตให้กองทุนต่างประเทศ 4 ราย เพื่อร่วมลงทุนระยะยาว ระบุเพื่อเพิ่ม free float หลังหุ้น MASTER ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ mai เข้ามาเข้าซื้อขายใน SET ยันไม่กระทบแผนการดำเนินธุรกิจ การันตีผลงานงวดไตรมาส 4/67 เติบโตแข็งแกร่ง
17 ม.ค. 2025
COCOCO รุกเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในประเทศฟิลิปปินส์ วางเป้าเสริมความแข็งแกร่งด้านแหล่งวัตถุดิบ โดยเฉพาะ "มะพร้าว" ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญ หวังรองรับความต้องการตลาดโลก ระบุความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจภูมิภาค
17 ม.ค. 2025