TSE ชนะประมูลโรงไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2
อัพเดทล่าสุด: 17 ธ.ค. 2024
134 ผู้เข้าชม
TSE คว้างานใหญ่ส่งท้ายปี 67 ชนะประมูลโรงไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 จำนวน 21 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตเสนอขายรวม 136.1 เมกะวัตต์ ระบุพร้อมเดินหน้าเข้าร่วมประมูลเฟส 3 ในปี 68 พร้อมเดินหน้าทำ M&A-JV ธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะ โซลาร์ฟาร์ม หวังเพิ่มสัดส่วน Recurring Income ดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ได้ประกาศรับซื้อไฟฟ้าตามระเบียบ ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FIT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ.2567 นั้น
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทได้ยื่นข้อเสนอเข้าร่วมโครงการตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขตามระเบียบดังกล่าวและได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ผลิตและขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับรัฐบาลตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน จำนวนทั้งสิ้น 21 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขายรวม 136.1 เมกะวัตต์ (165 เมกะวัตต์ติดตั้ง) โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี
สำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FIT) เท่ากับ 2.1679 บาทต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ตลอดอายุสัญญา มีมูลค่าการลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลเฟส 3 ที่จะมีขึ้นในปี 2568 ด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือ วางเป้าไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์
"การได้รับคัดเลือกประมูลในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบ 2 ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านการเป็นผู้นำพลังงานสะอาดของกลุ่มบริษัท อีกทั้งยังช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) สนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน"
ส่วนปัจจุบัน TSE มีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมด 41 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขายรวม 241.86 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว จำนวน 34 โครงการ และโครงการที่ยังไม่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) อีก 7 โครงการ และเมื่อรวมกับผลการชนะการประมูลในครั้งนี้อีก 136.1 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมทั้งหมดเป็น 377.9 เมกะวัตต์เสนอขาย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทยังคงเดินหน้าการลงทุนในกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านการลงทุนแบบเข้าซื้อกิจการ หรือ M&A (Mergers and Acquisitions) ที่จะสามารถรับรู้รายได้และกระแสเงินสดได้ทันที รวมถึงร่วมจับมือกับพันธมิตรธุรกิจในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ทั้งในรูปของกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าขยะ โดยจะพิจารณาเลือกลงทุนในโครงการที่มีผลการดำเนินงาน และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคงสม่ำเสมอ
ขณะเดียวกัน ยังมีการพัฒนากลุ่มธุรกิจ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) ในรูปแบบการลงทุนใหม่ๆ เช่น Direct PPA และ ESCO Model PPA ซึ่งเป็นการขายพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ ทั้งกับภาครัฐและเอกชนแบบครบวงจร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ
****************************
ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ได้ประกาศรับซื้อไฟฟ้าตามระเบียบ ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FIT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ.2567 นั้น
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทได้ยื่นข้อเสนอเข้าร่วมโครงการตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขตามระเบียบดังกล่าวและได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ผลิตและขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับรัฐบาลตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน จำนวนทั้งสิ้น 21 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขายรวม 136.1 เมกะวัตต์ (165 เมกะวัตต์ติดตั้ง) โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี
สำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FIT) เท่ากับ 2.1679 บาทต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ตลอดอายุสัญญา มีมูลค่าการลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลเฟส 3 ที่จะมีขึ้นในปี 2568 ด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือ วางเป้าไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์
"การได้รับคัดเลือกประมูลในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบ 2 ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านการเป็นผู้นำพลังงานสะอาดของกลุ่มบริษัท อีกทั้งยังช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) สนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน"
ส่วนปัจจุบัน TSE มีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมด 41 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขายรวม 241.86 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว จำนวน 34 โครงการ และโครงการที่ยังไม่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) อีก 7 โครงการ และเมื่อรวมกับผลการชนะการประมูลในครั้งนี้อีก 136.1 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมทั้งหมดเป็น 377.9 เมกะวัตต์เสนอขาย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทยังคงเดินหน้าการลงทุนในกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านการลงทุนแบบเข้าซื้อกิจการ หรือ M&A (Mergers and Acquisitions) ที่จะสามารถรับรู้รายได้และกระแสเงินสดได้ทันที รวมถึงร่วมจับมือกับพันธมิตรธุรกิจในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ทั้งในรูปของกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าขยะ โดยจะพิจารณาเลือกลงทุนในโครงการที่มีผลการดำเนินงาน และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคงสม่ำเสมอ
ขณะเดียวกัน ยังมีการพัฒนากลุ่มธุรกิจ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) ในรูปแบบการลงทุนใหม่ๆ เช่น Direct PPA และ ESCO Model PPA ซึ่งเป็นการขายพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ ทั้งกับภาครัฐและเอกชนแบบครบวงจร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ
****************************
บทความที่เกี่ยวข้อง
PROUD ส่งสัญญาณเชิงบวกไตรมาส 2/68 เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เดินหน้าโอนกรรมสิทธิ์ 2 โครงการหลัก เดินหน้ากลยุทธ์ผลักดันยอดขายผ่านแคมเปญพิเศษทุกโครงการ ภายใต้แนวคิด "ALL IS WELL เพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน" พร้อมเคาะเทรด PROUD-W3 มิถุนายนนี้
21 พ.ค. 2025
CHAYO ประกาศผลงานโค้งแรกปี 2568 โชว์ฟอร์มแกร่ง กำไรในส่วนของบริษัทใหญ่โตแตะ 80.16 ล้านบาท หรือโต 2,411% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีรายได้รวม 548.55 ล้านบาท โต 11.23% ระบุเป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแ มั่นใจผลงานปีนี้ เติบไม่ต่ำกว่า 20%
21 พ.ค. 2025
CPANEL ส่งสัญญาณ Q2/68 เร่งส่งมอบงาน โครงการภาครัฐ โครงการอสังหาฯ ทั้งแนวราบ คอนโดฯ รับรู้รายได้เต็มสูบ คว้างานใหม่เพิ่มมูลค่า 104.28 ล้านบาท ดัน Backlog แตะ 1,398.12ล้านบาท มั่นใจผลงานพลิกมีกำไร หลังผลประกอบการไตรมาส 1/68 มีผลขาดทุนสุทธิ 15.26 ล้านบาท
21 พ.ค. 2025