บิ๊ก SFLEX ลุยเก็บหุ้นเข้าพอร์ต
อัพเดทล่าสุด: 21 ม.ค. 2025
173 ผู้เข้าชม
ผู้บริหาร SFLEX ผนึกกำลังซื้อหุ้นเข้าพอร์ตรวมกว่า 4 ล้านหุ้น ตอกย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจ หลังโชว์ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง 8 ไตรมาสติดต่อกัน ด้วยกลยุทธ์การบริหารต้นทุน และขยายฐานลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยั่งยืน ผลักดันอนาคตโดดเด่น ด้านโบรกฯ ประสานเสียงเชียรซื้อหุ้น ให้เป้าหมายสูงสุดที่ 5.8 บาท
รายงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า นายปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร และนายสมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศไทย แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของบริษัท ภายในระยะประมาณ 1 สัปดาห์ ทยอยสะสมหุ้น SFLEX แล้วมากกว่า 4 ล้านหุ้น ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกอย่างมาก ซึ่งหากมองผลประกอบการที่ดีต่อเนื่อง ทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันมี P/E ต่ำกว่า 8 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่มีความเสี่ยงน้อยมาก
นายปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร SFLEX ระบุว่า การเข้าลงทุนเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในครั้งนี้ เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สามารถผลักดันการเติบโตได้ต่อเนื่อง รวมทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการบริหารงาน รวมถึงตอกย้ำให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจในศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ SFLEX โดดเด่นด้วยการเติบโตของผลกำไรต่อเนื่อง 8 ไตรมาสติดต่อกัน สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนการผลิต ทั้งในด้านการจัดหาวัตถุดิบ การทำสัญญาล่วงหน้า การพิจารณาแนวโน้มราคาและอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตด้วยการเพิ่มทักษะและปรับเปลี่ยนเครื่องจักรให้ทันสมัย ประกอบกับแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจมุ่งเน้นการขายสินค้าที่มีมูลค่าสูง ประกอบกับการมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความยั่งยืน หรือแพคเกจจิ้งที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (Recyclable)
ขณะเดียวกัน บริษัทมีจุดแข็งจากความสามารถในการปรับตัวตามแนวโน้มตลาดและความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และมุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน และมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตจากแผนขยายฐานธุรกิจที่ชัดเจน จากการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งอย่าง SCGP และ TU ซึ่งช่วยเสริมสร้างรากฐานการเติบโตและขยายโอกาสในตลาดใหม่ๆ
นอกจากนี้ จากการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา SFLEX ได้รับการยอมรับในฐานะผู้ผลิตชั้นนำที่มีศักยภาพสูงและมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง การขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรชั้นนำช่วยเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคง และแสดงถึงความพร้อมของบริษัทในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนในระยะยาว
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า มองราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่สะท้อนกำไรไตรมาส 3/67 ที่ออกมาอย่างน่าประทับใจ ซึ่งดีทั้งการเติบโตของรายได้ และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทร่วมทุนในเวียดนาม ทำผลงานได้ดีมาก โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 ของหุ้น SFLEX ที่หุ้นละ 5.10 บาท
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/67 คาดการณ์ว่ายังสดใสต่อเนื่องและไม่มีแรงกดดันด้านต้นทุนจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำและภาวะ Oversupply ของปิโตรเคมี โดยประมาณการกำไรยังมี upside จากปัจจุบันที่ปี 2567 ที่ 243 ล้านบาท โต 34% จากปีก่อน
ส่วนนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ ระบุว่า คาดอัตรากำไรขั้นต้นของ SFLEX จะทรงตัวสูงต่อเนื่องในไตรมาส 4/67 และในปี 2568 จากภาวะ Oversupply ของปิโตรเคมี ตลอดปี 2568 ซึ่งจะทำให้ราคาเม็ดพลาสติกต่ำอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนในหุ้น SFLEX ยังคงให้คำแนะนำ "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมายที่หุ้นละ 5.8 บาท อิง Forward PE ที่ 20 เท่า บนประมาณการปัจจุบันที่ต่ำเพียง 10 เท่า
***************************
รายงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า นายปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร และนายสมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศไทย แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของบริษัท ภายในระยะประมาณ 1 สัปดาห์ ทยอยสะสมหุ้น SFLEX แล้วมากกว่า 4 ล้านหุ้น ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกอย่างมาก ซึ่งหากมองผลประกอบการที่ดีต่อเนื่อง ทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันมี P/E ต่ำกว่า 8 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่มีความเสี่ยงน้อยมาก
นายปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร SFLEX ระบุว่า การเข้าลงทุนเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในครั้งนี้ เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สามารถผลักดันการเติบโตได้ต่อเนื่อง รวมทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการบริหารงาน รวมถึงตอกย้ำให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจในศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ SFLEX โดดเด่นด้วยการเติบโตของผลกำไรต่อเนื่อง 8 ไตรมาสติดต่อกัน สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนการผลิต ทั้งในด้านการจัดหาวัตถุดิบ การทำสัญญาล่วงหน้า การพิจารณาแนวโน้มราคาและอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตด้วยการเพิ่มทักษะและปรับเปลี่ยนเครื่องจักรให้ทันสมัย ประกอบกับแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจมุ่งเน้นการขายสินค้าที่มีมูลค่าสูง ประกอบกับการมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความยั่งยืน หรือแพคเกจจิ้งที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (Recyclable)
ขณะเดียวกัน บริษัทมีจุดแข็งจากความสามารถในการปรับตัวตามแนวโน้มตลาดและความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และมุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน และมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตจากแผนขยายฐานธุรกิจที่ชัดเจน จากการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งอย่าง SCGP และ TU ซึ่งช่วยเสริมสร้างรากฐานการเติบโตและขยายโอกาสในตลาดใหม่ๆ
นอกจากนี้ จากการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา SFLEX ได้รับการยอมรับในฐานะผู้ผลิตชั้นนำที่มีศักยภาพสูงและมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง การขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรชั้นนำช่วยเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคง และแสดงถึงความพร้อมของบริษัทในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนในระยะยาว
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า มองราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่สะท้อนกำไรไตรมาส 3/67 ที่ออกมาอย่างน่าประทับใจ ซึ่งดีทั้งการเติบโตของรายได้ และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทร่วมทุนในเวียดนาม ทำผลงานได้ดีมาก โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 ของหุ้น SFLEX ที่หุ้นละ 5.10 บาท
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/67 คาดการณ์ว่ายังสดใสต่อเนื่องและไม่มีแรงกดดันด้านต้นทุนจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำและภาวะ Oversupply ของปิโตรเคมี โดยประมาณการกำไรยังมี upside จากปัจจุบันที่ปี 2567 ที่ 243 ล้านบาท โต 34% จากปีก่อน
ส่วนนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ ระบุว่า คาดอัตรากำไรขั้นต้นของ SFLEX จะทรงตัวสูงต่อเนื่องในไตรมาส 4/67 และในปี 2568 จากภาวะ Oversupply ของปิโตรเคมี ตลอดปี 2568 ซึ่งจะทำให้ราคาเม็ดพลาสติกต่ำอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนในหุ้น SFLEX ยังคงให้คำแนะนำ "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมายที่หุ้นละ 5.8 บาท อิง Forward PE ที่ 20 เท่า บนประมาณการปัจจุบันที่ต่ำเพียง 10 เท่า
***************************
บทความที่เกี่ยวข้อง
Maxbit พร้อมผลักดันนวัตกรรมการลงทุนคริปโตฯ ไปอีกขั้น ผ่านการเปิดตัวระบบ "Grid Trading" เป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย ระบุเป็นระบบที่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ผู้ลงทุนสามารถกำหนดช่วงราคาการเทรดเองได้
8 ก.ค. 2025
YLG เปิดปัจจัยหนุนราคาทองคำ ระบุยังมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คาดปีนี้ทองคำยังมีลุ้นที่ 3,500 ดอลลาร์ หากผ่านได้มีโอกาสพุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดที่ 3,650 ดอลลาร์ หลังครึ่งปีแรกราคาพุ่งแล้ว 25% พร้อมเปิดสถิติย้อนหลัง 20 ปี พบผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึงปีละ 9.36%
8 ก.ค. 2025
GBS ประเมินภาพรวมหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงปรับตัวลงต่อ หลังผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีไทยในอัตรา 36% กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนเรื่องขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีการค้าโลก แนะกลยุทธ์ลหลบภัยช่วงตลาดหุ้นขาลง ชู ADVANC, PR9, TISCO, BGRIM เด่น
8 ก.ค. 2025