AMA เล็งขยายไลน์ธุรกิจใหม่
อัพเดทล่าสุด: 4 ก.พ. 2025
139 ผู้เข้าชม
AMA ประเมินธุรกิจโลจิสติกส์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10% จากปีก่อน จากธุรกิจรถขนส่งสินค้าขาขึ้น ดีมานด์ลูกค้าพุ่ง ทั้งลูกค้าหลักและรายใหม่ ขณะที่บริษัทย่อย TSSK เตรียมสั่งซื้อรถเพิ่มอีก 20 คัน พร้อมมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ เน้นโลจิสติกส์รถขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ คลังสินค้า รวมทั้งโดรน มุ่งสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถของบริษัทและของบริษัทย่อยคือ บริษัท เอ เอ็ม เอ โลจีสติกส์ ( AMAL ) ที่ได้เพิ่มจำนวนรถ 30 คัน เป็น 334 คัน ในช่วงปลายปี 2567
ทั้งนี้ ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถ มาจากกลุ่มลูกค้าหลักอย่าง บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ซึ่งใช้บริการรถขนส่งน้ำมันของ AMA คิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% และแผนการขยายสาขาของ PTG ซึ่งจะทำให้ปริมาณการขนส่งมากขึ้น ส่วนลูกค้ารายอื่นมีความต้องการใช้รถขนส่งมากขึ้นเช่นกัน ขณะที่การให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือมีการเติบโตต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
"ธุรกิจขนส่งทางรถในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากดีมานด์ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ซึ่งเราริษัทได้มีการเตรียมแผนรองรับโดยบริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด (TSSK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ AMA ถือหุ้น 67% ทำธุรกิจขนส่งเม็ดพลาสติก เตรียมสั่งซื้อรถเพิ่มอีก 20 คันภายในไตรมาส 2/68 ส่วนธุรกิจขนส่งทางเรือ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีเรือขนส่งจำนวน 8 ลำ ขนาด 8.6 หมื่นเดทเวทตัน รองรับดีมานด์ลูกค้า" นายพิศาล กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมขยายธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งยังคงโฟกัสในธุรกิจโลจิสติกส์เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ Warehouse และขนส่งทางโดรน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ส่วนการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุน ซึ่งมี 2 แนวทางคือ การลงทุนเอง และการร่วมมือกับพันธมิตร
**********************
นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถของบริษัทและของบริษัทย่อยคือ บริษัท เอ เอ็ม เอ โลจีสติกส์ ( AMAL ) ที่ได้เพิ่มจำนวนรถ 30 คัน เป็น 334 คัน ในช่วงปลายปี 2567
ทั้งนี้ ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถ มาจากกลุ่มลูกค้าหลักอย่าง บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ซึ่งใช้บริการรถขนส่งน้ำมันของ AMA คิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% และแผนการขยายสาขาของ PTG ซึ่งจะทำให้ปริมาณการขนส่งมากขึ้น ส่วนลูกค้ารายอื่นมีความต้องการใช้รถขนส่งมากขึ้นเช่นกัน ขณะที่การให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือมีการเติบโตต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
"ธุรกิจขนส่งทางรถในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากดีมานด์ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ซึ่งเราริษัทได้มีการเตรียมแผนรองรับโดยบริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด (TSSK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ AMA ถือหุ้น 67% ทำธุรกิจขนส่งเม็ดพลาสติก เตรียมสั่งซื้อรถเพิ่มอีก 20 คันภายในไตรมาส 2/68 ส่วนธุรกิจขนส่งทางเรือ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีเรือขนส่งจำนวน 8 ลำ ขนาด 8.6 หมื่นเดทเวทตัน รองรับดีมานด์ลูกค้า" นายพิศาล กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมขยายธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งยังคงโฟกัสในธุรกิจโลจิสติกส์เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ Warehouse และขนส่งทางโดรน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ส่วนการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุน ซึ่งมี 2 แนวทางคือ การลงทุนเอง และการร่วมมือกับพันธมิตร
**********************
บทความที่เกี่ยวข้อง
Maxbit พร้อมผลักดันนวัตกรรมการลงทุนคริปโตฯ ไปอีกขั้น ผ่านการเปิดตัวระบบ "Grid Trading" เป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย ระบุเป็นระบบที่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ผู้ลงทุนสามารถกำหนดช่วงราคาการเทรดเองได้
8 ก.ค. 2025
YLG เปิดปัจจัยหนุนราคาทองคำ ระบุยังมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คาดปีนี้ทองคำยังมีลุ้นที่ 3,500 ดอลลาร์ หากผ่านได้มีโอกาสพุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดที่ 3,650 ดอลลาร์ หลังครึ่งปีแรกราคาพุ่งแล้ว 25% พร้อมเปิดสถิติย้อนหลัง 20 ปี พบผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึงปีละ 9.36%
8 ก.ค. 2025
GBS ประเมินภาพรวมหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงปรับตัวลงต่อ หลังผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีไทยในอัตรา 36% กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนเรื่องขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีการค้าโลก แนะกลยุทธ์ลหลบภัยช่วงตลาดหุ้นขาลง ชู ADVANC, PR9, TISCO, BGRIM เด่น
8 ก.ค. 2025