AMA เล็งขยายไลน์ธุรกิจใหม่
อัพเดทล่าสุด: 4 ก.พ. 2025
36 ผู้เข้าชม
AMA ประเมินธุรกิจโลจิสติกส์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10% จากปีก่อน จากธุรกิจรถขนส่งสินค้าขาขึ้น ดีมานด์ลูกค้าพุ่ง ทั้งลูกค้าหลักและรายใหม่ ขณะที่บริษัทย่อย TSSK เตรียมสั่งซื้อรถเพิ่มอีก 20 คัน พร้อมมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ เน้นโลจิสติกส์รถขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ คลังสินค้า รวมทั้งโดรน มุ่งสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถของบริษัทและของบริษัทย่อยคือ บริษัท เอ เอ็ม เอ โลจีสติกส์ ( AMAL ) ที่ได้เพิ่มจำนวนรถ 30 คัน เป็น 334 คัน ในช่วงปลายปี 2567
ทั้งนี้ ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถ มาจากกลุ่มลูกค้าหลักอย่าง บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ซึ่งใช้บริการรถขนส่งน้ำมันของ AMA คิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% และแผนการขยายสาขาของ PTG ซึ่งจะทำให้ปริมาณการขนส่งมากขึ้น ส่วนลูกค้ารายอื่นมีความต้องการใช้รถขนส่งมากขึ้นเช่นกัน ขณะที่การให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือมีการเติบโตต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
"ธุรกิจขนส่งทางรถในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากดีมานด์ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ซึ่งเราริษัทได้มีการเตรียมแผนรองรับโดยบริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด (TSSK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ AMA ถือหุ้น 67% ทำธุรกิจขนส่งเม็ดพลาสติก เตรียมสั่งซื้อรถเพิ่มอีก 20 คันภายในไตรมาส 2/68 ส่วนธุรกิจขนส่งทางเรือ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีเรือขนส่งจำนวน 8 ลำ ขนาด 8.6 หมื่นเดทเวทตัน รองรับดีมานด์ลูกค้า" นายพิศาล กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมขยายธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งยังคงโฟกัสในธุรกิจโลจิสติกส์เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ Warehouse และขนส่งทางโดรน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ส่วนการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุน ซึ่งมี 2 แนวทางคือ การลงทุนเอง และการร่วมมือกับพันธมิตร
**********************
นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถของบริษัทและของบริษัทย่อยคือ บริษัท เอ เอ็ม เอ โลจีสติกส์ ( AMAL ) ที่ได้เพิ่มจำนวนรถ 30 คัน เป็น 334 คัน ในช่วงปลายปี 2567
ทั้งนี้ ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถ มาจากกลุ่มลูกค้าหลักอย่าง บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ซึ่งใช้บริการรถขนส่งน้ำมันของ AMA คิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% และแผนการขยายสาขาของ PTG ซึ่งจะทำให้ปริมาณการขนส่งมากขึ้น ส่วนลูกค้ารายอื่นมีความต้องการใช้รถขนส่งมากขึ้นเช่นกัน ขณะที่การให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือมีการเติบโตต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
"ธุรกิจขนส่งทางรถในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากดีมานด์ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ซึ่งเราริษัทได้มีการเตรียมแผนรองรับโดยบริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด (TSSK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ AMA ถือหุ้น 67% ทำธุรกิจขนส่งเม็ดพลาสติก เตรียมสั่งซื้อรถเพิ่มอีก 20 คันภายในไตรมาส 2/68 ส่วนธุรกิจขนส่งทางเรือ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีเรือขนส่งจำนวน 8 ลำ ขนาด 8.6 หมื่นเดทเวทตัน รองรับดีมานด์ลูกค้า" นายพิศาล กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมขยายธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งยังคงโฟกัสในธุรกิจโลจิสติกส์เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ Warehouse และขนส่งทางโดรน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ส่วนการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุน ซึ่งมี 2 แนวทางคือ การลงทุนเอง และการร่วมมือกับพันธมิตร
**********************
บทความที่เกี่ยวข้อง
TSE สุดสตรอง! จ่ายคืนหุ้นกู้ มูลค่า 1,200 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตามกำหนดครบทั้งจำนวน ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุนและผู้ถือหุ้น พร้อมเดินหน้าตามแผนธุรกิจ ลุยขยายลงทุนเพิ่มในธุรกิจโรงไฟฟ้า แตกไลน์สู่ธุรกิจ Healthcare, ความงาม, และ Wellness สร้าง New S-Curve เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
13 ก.พ. 2025
WP เปิดแผนธุรกิจปี 68 ตั้งเป้ารายได้แตะ 18,500 ล้านบาท ยอดขายก๊าซ LPG ที่ระดับ 8.3 แสนตัน สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เผยเตรียมทุ่มเงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพิ่มจุดกระจายสินค้า ขยายการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มอีก 5 เมกะวัตต์ หนุนผลงานเติบโตยั่งยืน
13 ก.พ. 2025
DRT ก้าวผ่านความท้าทายปี 67 ผลักดันรายได้รวมทั้งปีที่ 4,991 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 506.25 ล้านบาท จากการวางกลยุทธ์บริหารช่องทางจำหน่ายหลักทั้ง 4 ช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพ การขยายตลาดและผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมเตรียมเสนอบอร์ดพิจารณาจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังของปี 2567
13 ก.พ. 2025