SO ตั้งเป้ารายได้ปี 68 โตกว่า 10%
อัพเดทล่าสุด: 25 ก.พ. 2025
43 ผู้เข้าชม
SO เผยรายได้รวมปี 2567 อยู่ที่กว่า 2.581 พันล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 153 ล้านบาท ด้านแผนงานปี 2568 คาดรายได้จากประกอบการธุรกิจโตกว่า 10% จาก Backlog อยู่ที่ประมาณ 70% ของเป้ารายได้ วางเป้าเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ 17% ขึ้นไป รวมถึงการนำ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาด้านการให้บริการแก่ลูกค้า พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น ขึ้นเรื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคม กำหนดจ่าย 21 พฤษภาคมนี้
คุณกัณธิมา แจ้งวันสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทไตรมาส 4/67 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66 บริษัทมีรายได้รวม 697.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.88 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 599.04 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 59.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 61.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 36.51 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้รวม 2,581.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 198.89 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,382.47 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ค่าบริหารจัดการบุคลากร อยู่ที่ 2,142.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125.55 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,016.83 ล้านบาท รายได้ค่าเช่าและบริการ 414.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.67 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้อยู่ที่ 329.57 ล้านบาท ด้านกำไรขั้นต้นสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 411.68 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 410.99 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้น 16.10% ลดลงจากปี 2566 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 17.51%
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของรายได้มาจากทุกส่วน โดยเฉพาะ SO Green และ SO Wheel ที่มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 23.4% และ 19.7% ตามลำดับ โดยในส่วนของ SO People มีจำนวนรายได้เพิ่มขึ้นมากที่สุดที่ 85.89 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.67% และสำหรับ SO Next จะมีการเติบโตเพียงเล็กน้อยที่จำนวน 4.44 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.49% ซึ่งจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในปี 2567 เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าใหม่ จึงมีผลกระทบให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยประมาณ 1.5% และในส่วนของกำไรสุทธิสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 153.02 ล้านบาท ซึ่งลดลง 30.51 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 183.53 ล้านบาท จาก 3 ปัจจัยหลักซึ่งเป็นรายการที่เกิดเพียงครั้งเดียวคือ ปี 2566 มีการบวกกลับค่าเผื่อค่าปรับจำนวน 18 ล้านบาท จำนวนรถหมดสัญญาและขายในปี 2567 น้อยกว่าปีก่อน และค่าธรรมเนียมจากการปิดสัญญา Leasing ก่อนกำหนด
จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณธกรรมการมีมตินุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.18 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 86 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 85% ของกำไรสุทธิหลังจากหักเงินทุนสำรองตามกฎหมาย และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 โดยต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ก่อน
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นปีละ 2 ครั้ง โดยการจ่ายเงินปันผลครั้งแรกเป็นเงินปันผลระหว่างกาล และครั้งที่สองสำหรับเงินปันผลประจำปี โดยเงินปันผลที่จ่ายรวมทั้งสิ้นในแต่ละปีจะมีจำนวนประมาณ 50% ของกำไรสุทธิ ภายหลังจากหักเงินสำรองต่างๆ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 จะยังมีการรักษาระดับการเติบโตของรายได้มากกว่า 10% และมีเป้าหมายต้องการที่จะมีอัตรากำไรขั้นต้นอย่างน้อย 17% ซึ่งภาพรวมปี 2567 ในส่วนของรายได้นั้น ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเปิดสัญญาใหม่ 186 สัญญา มูลค่ารวม 1,002 ล้านบาท และพยายามรักษาฐานลูกค้าให้ได้มากกว่า 90% ส่วนงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 70% ของเป้ารายได้ปี 2568 อีกทั้งจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีการนำเทคโนโลยีไปใช้ในองค์กร และการส่งบุคลากรไปยังองค์กรต่างๆ จะมีการเพิ่มทักษะบุคลากรให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพ การทำงานหลักๆ จะเป็นการเสริมในเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น จะมีการนำ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาด้านการให้บริการแก่ลูกค้า
ขณะเดียวกัน บริษัทมีอัตราการต่อสัญญาจากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่สูงกว่า 90% อย่างต่อเนื่องทุกปี สะท้อนถึงคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการ และด้วยประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่ช่วยลูกค้าลดภาระในด้านต่างๆ บริษัทจึงเป็นมากกว่าผู้ให้บริการ โดยเปรียบเสมือนเป็น Solution Partner และ Strategic Partner ที่ช่วยให้ลูกค้าดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัวยิ่งขึ้น
**********************
คุณกัณธิมา แจ้งวันสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทไตรมาส 4/67 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66 บริษัทมีรายได้รวม 697.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.88 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 599.04 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 59.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 61.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 36.51 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้รวม 2,581.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 198.89 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,382.47 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ค่าบริหารจัดการบุคลากร อยู่ที่ 2,142.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125.55 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,016.83 ล้านบาท รายได้ค่าเช่าและบริการ 414.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.67 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้อยู่ที่ 329.57 ล้านบาท ด้านกำไรขั้นต้นสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 411.68 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 410.99 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้น 16.10% ลดลงจากปี 2566 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 17.51%
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของรายได้มาจากทุกส่วน โดยเฉพาะ SO Green และ SO Wheel ที่มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 23.4% และ 19.7% ตามลำดับ โดยในส่วนของ SO People มีจำนวนรายได้เพิ่มขึ้นมากที่สุดที่ 85.89 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.67% และสำหรับ SO Next จะมีการเติบโตเพียงเล็กน้อยที่จำนวน 4.44 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.49% ซึ่งจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในปี 2567 เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าใหม่ จึงมีผลกระทบให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยประมาณ 1.5% และในส่วนของกำไรสุทธิสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 153.02 ล้านบาท ซึ่งลดลง 30.51 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 183.53 ล้านบาท จาก 3 ปัจจัยหลักซึ่งเป็นรายการที่เกิดเพียงครั้งเดียวคือ ปี 2566 มีการบวกกลับค่าเผื่อค่าปรับจำนวน 18 ล้านบาท จำนวนรถหมดสัญญาและขายในปี 2567 น้อยกว่าปีก่อน และค่าธรรมเนียมจากการปิดสัญญา Leasing ก่อนกำหนด
จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณธกรรมการมีมตินุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.18 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 86 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 85% ของกำไรสุทธิหลังจากหักเงินทุนสำรองตามกฎหมาย และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 โดยต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ก่อน
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นปีละ 2 ครั้ง โดยการจ่ายเงินปันผลครั้งแรกเป็นเงินปันผลระหว่างกาล และครั้งที่สองสำหรับเงินปันผลประจำปี โดยเงินปันผลที่จ่ายรวมทั้งสิ้นในแต่ละปีจะมีจำนวนประมาณ 50% ของกำไรสุทธิ ภายหลังจากหักเงินสำรองต่างๆ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 จะยังมีการรักษาระดับการเติบโตของรายได้มากกว่า 10% และมีเป้าหมายต้องการที่จะมีอัตรากำไรขั้นต้นอย่างน้อย 17% ซึ่งภาพรวมปี 2567 ในส่วนของรายได้นั้น ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเปิดสัญญาใหม่ 186 สัญญา มูลค่ารวม 1,002 ล้านบาท และพยายามรักษาฐานลูกค้าให้ได้มากกว่า 90% ส่วนงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 70% ของเป้ารายได้ปี 2568 อีกทั้งจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีการนำเทคโนโลยีไปใช้ในองค์กร และการส่งบุคลากรไปยังองค์กรต่างๆ จะมีการเพิ่มทักษะบุคลากรให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพ การทำงานหลักๆ จะเป็นการเสริมในเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น จะมีการนำ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาด้านการให้บริการแก่ลูกค้า
ขณะเดียวกัน บริษัทมีอัตราการต่อสัญญาจากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่สูงกว่า 90% อย่างต่อเนื่องทุกปี สะท้อนถึงคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการ และด้วยประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่ช่วยลูกค้าลดภาระในด้านต่างๆ บริษัทจึงเป็นมากกว่าผู้ให้บริการ โดยเปรียบเสมือนเป็น Solution Partner และ Strategic Partner ที่ช่วยให้ลูกค้าดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัวยิ่งขึ้น
**********************
บทความที่เกี่ยวข้อง
MEDEZE ประกาศแผนงานปี 2568 เตรียมสร้างธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดแห่งใหม่ รองรับความต้องการขยายตัว หลังภาครัฐผลักดัน Stem Cell สู่กลุ่มนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ตามความต้องการของตลาด Stem Cell ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ทำ New High ทะลุ 1,000 ล้าน
17 มี.ค. 2025
SNPS เตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดปี 2567 ในอัตรา 0.13 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 21 มีนาคมนี้ หลังทำผลงานโตทะลุเป้า พร้อมพิจารณาอนุมัติแต่งตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ครบกําหนดออกจากตําแหน่งตามวาระ
13 มี.ค. 2025
GBX เปิดเกมรุกปี 2568 ตั้งเป้าการเติบโตทางธุรกิจ 10% เล็งขยายธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง เพิ่ม AUM แตะ 1 หมื่นล้านบาท พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้ง DRx และ Structured Note รองรับนักลงทุนทุกกลุ่ม รวมถึงศึกษาแนวทางพัฒนา Gold Link Note เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนในอนาคต
13 มี.ค. 2025