MASTER อวดกำไรพุ่ง 25% ทะลุ 522 ล.
MASTER สุดแกร่ง โชว์งบปี 67 สวยฉ่ำ กำไรพุ่ง 25% แตะ 522.45 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 2,135.08 ล้านบาท จากการเติบโตของศัลยกรรมความงาม ขณะที่ Synergy แข็งแกร่ง หนุนส่วนแบ่งกำไรจากพาร์ทเนอร์ พร้อมอนุมัติสั่งจ่ายปันผล 0.80 บาทต่อหุ้น พร้อมเปิดแผนธุรกิจ รุกขยายตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 40% ก้าวสู่การเป็น Regional Aesthetic Leader
นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พืช ผู้นำอันดับต้นของอุตสาหกรรมด้านความงามในไทยและเอเชียในฐานะ Regional Company เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 522.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปี 2566 ที่มีกำไรอยู่ที่ 416.29 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล ทำได้ 2,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีรายได้ 1,916 ล้านบาท โดยรายได้จากการศัลยกรรมเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของรายได้จากหัตถการ ศัลยกรรมยกคิ้ว ศัลยกรรมหน้า และสุขภาพชาย รวมถึงรายได้จากการปลูกผมและดูแลเส้นผม
นอกจากนี้ บริษัทมีการทำการตลาดในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศอินโดนีเชีย เมียนมา จีน เข้ามาใช้บริการ ส่งผลให้รายได้จากการศัลยกรรมความงามปรับตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 24.20% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่อยู่ที่ 21.42% และมีกำไรขั้นต้นจากการประกอบกิจการโรงพยาบาล เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2566 สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 59.93% เมื่อเทียบกับปี 2566 อยู่ที่ 59.05% ขณธที่ค่าใช้จ่ายในการขายลดลง 3% จากปี 2566 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทมีการควบคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายทางการตลาดลดลง กลยุทธ์การโฆษณาผ่านทางสื่อออนไลน์ การปรับเปลี่ยนให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น สนับสนุนต่ออัตราการทำกำไรของบริษัทที่ดีขึ้นในทิศทางเดียวกัน
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/67 มีกำไรสุทธิ 219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2566 โดยบริษัทมีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 635 ล้านบาท เติบโต 17% จากปี 2566 มีรายได้อยู่ที่ 543 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากศัลยกรรมทำได้ 541 ล้านบาท เติบโต 17% จากปี 2566 สาเหตุการเติบโตมาจากการรายได้ในหัตถการศัลยกรรมยกคิ้ว สุขภาพชาย และศัลยกรรมหน้า ขณะที่มีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 34.4% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่อยู่ที่ 30.1% โดยมีสาเหตุมาจากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น ประกอบกับรายได้จากส่วนแบ่งของเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้นและการบริหารค่าใช้จ่ายทางการขายที่ดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณาจ่ายเงินปันผล โดยมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 เพื่อการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.80 บาท โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 12 มีนาคม 2568 (Record Date) และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ซึ่งกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ในวันที่ 23 เมษายน 2568
ส่วนแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทวางแผนรุกขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพื่อผลักดันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 40% โดยเน้นการขยายฐานลูกค้าไปยัง อินโดนีเซีย เมียนมา ลาว จีน และกัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการด้านศัลยกรรมความงามสูง นอกจากนี้ MASTER ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานบริการและประสบการณ์ลูกค้า โดยมุ่งสู่การเป็น Regional Aesthetic Leader หรือผู้นำด้านศัลยกรรมความงามในระดับภูมิภาค
"เรามองเห็นโอกาสในการเติบโตจากตลาดต่างประเทศที่มีความต้องการบริการศัลยกรรมความงามระดับพรีเมียมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น MASTER จึงมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพบริการ เทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการแพทย์ ควบคู่ไปกับการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายการเติบโตระยะยาว" นางสาว ลภัสรดา กล่าว
**************************