แชร์

GBS จับเทคนิคเล่นหุ้นเดือน พ.ค.

อัพเดทล่าสุด: 7 พ.ค. 2025
28 ผู้เข้าชม

GBS ประเมินหุ้นไทยเดือนพฤษภาคมยังผันผวน แนะจับตาสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน การปรับลดดอกเบี้ยของ FED ในการประชุมรอบนี้ คาดการณ์กรอบดัชนีที่ระดับ 1,160-1,220 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่คาดประกาศงบไตรมาส 1/68 ออกมาดี อาทิ STECON, OSP, WHA, TRUE, ADVANC

               นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (GBS) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนพฤษภาคม โดยระบุว่า ยังคงแกว่งตัวผันผวน โดยนักลงทุนยังคงจับตามาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 0.3% ในไตรมาส 1/68 สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าขยายตัว 0.2% หลังจากขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 4/67 แม้ดีกว่าแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ที่ประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะหดตัว 2.7% ในไตรมาส 1/68 สร้างความกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ จากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากร และประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้ประกาศผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า จะเรียกเก็บภาษีในอัตรา 100% กับภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ผลิตในต่างประเทศ  ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ทันที

               ด้าน FedWatch Tool ของ CME Group ประเมินว่า นักลงทุนคาดหวังว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ส่วน เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) เปิดเผยถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 50.8 ในเดือนเมษายน ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 51.4 และชะลอลงจากระดับ 54.4 ในเดือนมีนาคม

               ขณะที่มูดี้ส์ เรทติ้งส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ประกาศลดอันดับมุมมองแนวโน้ม (Outlook) อันดับเครดิตของประเทศไทย จาก "มีเสถียรภาพ" ลงสู่แนวโน้ม "เชิงลบ" ซึ่งเป็นการปรับลงสู่ระดับ Negative เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 17 ปี และปรับลดมุมมองอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงิน 7 แห่งของไทยเป็น "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ"  ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นสุดในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ฝ่ายวิจัยจึงคาดกรอบดัชนีฯ ในเดือนนี้อยู่ที่ 1,160-1,220 จุด

               สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อการลงทุนที่จับตาในประเทศ วันที่ 7 พฤษภาคม ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.), สัปดาห์ที่ 2 สภาผู้ส่งออกแถลงสถานการณ์การส่งออก, สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน, วันที่ 14 พฤษภาคม รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ, วันที่ 15 พฤษภาคม กำหนดวันสุดท้ายส่งงบการเงินงวดสิ้นสุด 31 มีนาคม 2568, สัปดาห์ที่ 3 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย, ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์, วันที่ 30 พฤษภาคม ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

               ส่วนปัจจัยต่างประเทศ อาทิ  วันนี้ 7 พฤษภาคม จีนรายงานทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนเมษายน, ญี่ปุ่น รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนเมษายน, สหรัฐฯ รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์, วันที่ 6-7 พฤษภาคม ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งที่ 2/68, เช้าวันที่ 8 พฤษภาคม FED แถลงมติอัตราดอกเบี้ย, วันที่ 8 พฤษภาคม ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม, ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย, สหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมีนาคม, วันที่ 9 พฤษภาคม จีนรายงานยอดนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าเดือนเมษายน, ญี่ปุ่นรายงานการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนมีนาคม

               ขณะที่นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก  แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะประกาศผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/68 ออกมาดี ได้แก่ STECON, OSP, WHA, TRUE และ ADVANC



               ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก ประเมินราคาทองคำยังคงมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอความชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ประกอบกับนักลงทุนจับตาผลการประชุม FED  ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อข้อสรุปถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ย

               อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศระงับมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้เป็นเวลา 90 วัน พร้อมเผยว่า มีโอกาสที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับอินเดีย เกาหลี และญี่ปุ่น ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลสงครามการค้าลงบ้าง คาดทำให้มีแรงขายทำกำไรทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม FED  เผยว่า อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น หากพบว่า อัตราว่างงานพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงคาดการณ์ว่า ปัจจัยดังกล่าวเหล่านี้จะช่วยพยุงราคาทองคำ โดยให้กรอบทองคำเดือนนี้ที่ 3,200-3,475 ดอลลาร์ต่อออนซ์

*********************** 


บทความที่เกี่ยวข้อง
ATLAS รอฤกษ์ขาย IPO ส่งหุ้นเข้า SET
ATLAS ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG ภายใต้เครื่องหมายการค้า "PT" ประกาศพร้อมเดินหน้าเสนอขาย IPO จำนวน 418.42 ล้านหุ้น เข้าจดทะเบียนใน SET คาดส่งหุ้นลงกระดานเทรดได้ภ่ยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ระดมทุนขยายฐานธุรกิจ
20 พ.ค. 2025
SKIN จับมือ APM เดินสายโรดโชว์
SKIN ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามแบรนด์ไทย Skinsista และ Dermie จับมือ APM ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) เดินสายโรดโชว์ นำเสนอข้อมูลธุรกิจ ข้อมูลทางการเงิน ก่อนเสนอขาย IPO เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai
20 พ.ค. 2025
MEDEZE เสริมทัพทีมผู้บริหาร
MEDEZE เดินหน้าเสริมทัพ แต่งตั้ง "ปิยวัชร ราชพลสิทธิ์" นั่งรองประธานกรรมการบริษัท ร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสุขภาพสู่ระดับสากล ระบุถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของ MEDEZE ในการเติมเต็มทีมบริหารระดับสูง ให้พร้อมรับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
20 พ.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy