NDR ผุดโปรเจ็ค PROUD TO BE INTREND
NDR ปลุกกระแสยางรถจักรยานยนต์ ผุดแคมเปญ "PROUD TO BE INTREND" เปิดตัว "ลำไย ไหทองคำ" ขึ้นแท่น Brand Ambassador ส่งเสริมกลยุทธ์ทางการตลาด ขยายฐานกลุ่มผู้บริโภค สร้างแบรนด์ ND Rubber ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ด้านแผนการปีนี้ รุกขยายฐานกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ วางเป้ารายได้แตะระดับ 1,000 ล้าน
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จ ากัด (มหาชน) หรือ NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ ND Rubber เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพลิกโฉมแบรนด์ ND Rubber ครั้งใหญ่ ด้วยการผุดแคมเปญ PROUD TO BE INTREND โดยได้เปิดตัว "ลำไย ไหทองคำ" มารับตำแหน่ง Brand Ambassador ในปีนี้ เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจะมีกิจกรรมการตลาดที่เกี่ยวข้องกับคุณลำไยอย่างต่อเนื่องนับจากนี้ เพื่อส่งเสริมกลยุทธ์ทางการตลาดและขยายฐานกลุ่มผู้บริโภค
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างผลิต Music VDO ประกอบเพลงชื่อ "เด็กเอ็น ดี๊ดี" โดยมีพระเอกนำแสดงคือ นายจารุวัฒน์ หารชัยพา หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ฮาเล่ย์ แอสการ์ด โดยคาดจะเผยแพร่อย่างเป็นทางการได้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ โดยคาดหวังว่า การทำการตลาดครั้งนี้จะทำให้คนในประเทศรู้จักแบรนด์ของบริษัทมากขึ้น และเมื่อผู้บริโภคได้รู้จักแบรนด์และทดลองใช้สินค้าแล้ว จะเกิดความมั่นใจในคุณภาพ และเลือกใช้สินค้าของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของยอดขายในประเทศ
"แผนงานในปีนี้ NDR เดินหน้ารีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ เพื่อให้เข้าถึงผู้คนทุกเพศทุกวัย รวมถึงกลุ่มแฟนคลับของ Brand Ambassador โดยยังคงยืนหยัดในคุณภาพที่ผู้ใช้เชื่อมั่น และให้ความสำคัญด้านความปลอดภัย ความทันสมัย และการเป็นผู้นำเทรนด์อยู่เสมอ ภายใต้แนวคิด PROUD TO BE INTREND คือพลังขับเคลื่อนของผู้ที่มั่นใจในตัวเอง ในการเลือกใช้สินค้าที่บ่งบอกถึงตัวตนอย่างมีสไตล์ อินเทรนด์ วันนี้จึงไม่ใช่แค่การตามแฟชั่น แต่คือการนิยามแฟชั่นในแบบของตัวเอง" นายชัยสิทธิ์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ ตั้งเป้าเป้ารายได้รวมที่ระดับ 1,000 ล้านบาท โดยยังคงมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายยางในและยางนอกรถจักรยานยนต์ ซึ่งปีนี้ บริษัทได้ตั้งงบการตลาดไว้ที่ประมาณ 7-10 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการรับรู้แบรนด์และขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในและต่างประเทศ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ในวงกว้าง อีกทั้งยังได้ขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษและญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีในปีที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการรุกตลาดสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและขยายฐานลูกค้าในภูมิภาคใหม่ๆ
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด ผ่านการผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจและสอดคล้องกับแนวโน้มด้านสิ่งแวดล้อม โดยคาดว่าธุรกิจใหม่นี้จะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 5% ของรายได้รวม และคาดจะติดตั้งเครื่องจักรในไตรมาส 2/68 นี้ คาดจะสามารถเริ่มเดินสายการผลิตได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าการเติบโตทั้งในธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่ จะช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรในระยะยาว
"บริษัทยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนการผลิตสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ผ่านการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า การปรับกระบวนการผลิตเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน และการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญทั้งคุณภาพและความรับผิดชอบต่อโลกและสังคม" นายชัยสิทธิ์ กล่าว
*************************