แชร์

PRM รุกขยายฐาน Logistics ครบวงจร

อัพเดทล่าสุด: 17 ก.ย. 2024
77 ผู้เข้าชม

               นางสาวสุธาสินี หมื่นละม้าย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพาณิชย์และการลงทุน บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 คาดว่ายังคงเติบโตอย่างมั่นคง โดยธุรกิจ Offshore Support Vessels (OSV) มีแนวโน้มเติบโตในทิศทางที่ดี จากการขยายกองเรือตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับใช้กองเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สัญญาระยะยาว สอดคล้องกับกิจกรรมการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มกำลังการผลิตในอ่าวไทย

               ขณะที่ธุรกิจเรือกักเก็บและผสมน้ำมันกลางทะเล (FSU) มีสัญญาณบวกเติบโตจากปีที่แล้ว ตามการฟื้นตัวของดีมานด์ในเรือ FSU สวนทางราคาเฉลี่ยต้นทุนเชื้อเพลิงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมี (PCT)  คาดจะมีดีมานด์ในช่วงสิ้นปี ซึ่งเป็น High Season ของภาคการท่องเที่ยวหนุนอัตราการใช้เรือเติบโต

               นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเข้าซื้อกิจการผู้ให้บริการตัวแทนออกของ (Shipping & Ship Agent) เบื้องต้นคาดว่าจะปิดดีลภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ และรับรู้รายได้ทันที โดยธุรกิจดังกล่าวจะเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในการต่อยอดการเติบโตในธุรกิจเดิม รวมทั้งสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจให้บริการ Logistics อย่างครบวงจร โดยบริษัทมีแผนขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากกลุ่มปิโตรเลียม อาทิ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการนำเข้าส่งออกเพิ่มมากขึ้น

               ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทมีการทำสัญญาต่อเรือใหม่จำนวน 2 ลำ ซึ่งเป็นเรือ Crew Boat ภายใต้งบลงทุน 350 ล้านบาท เพื่อเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ รองรับความต้องการเรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเลที่ยังคงมีแนวโน้มเร่งขยายกำลังการผลิตตามความต้องการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และซัพพลายเรือในธุรกิจนี้มีจำกัด คาดว่าจะรับมอบเรือทั้ง 2 ลำ ในช่วงเดือนมีนาคม และกรกฎาคม 2568 ตามลำดับ ซึ่งปัจจุบันเรือทั้ง 2 ลำดังกล่าวมีงานรองรับแล้ว และจะส่งผลให้บริษัทมีเรือ Crew Boat ให้บริการรวมทั้งสิ้น 17 ลำ ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

               ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนเข้าซื้อเรือ FSU เพิ่มเติมอีก 1 ลำ โดยปัจจุบันมีเรือ FSU ทั้งหมด 5 ลำ รวมทั้งยังมีแผนเข้าซื้อเรือ Aframax จำนวน 1 ลำ ซึ่งแผนการเข้าซื้อเรือทั้ง 2 ลำดังกล่าว ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา หากมีความชัดเจนจะรายงานให้ทราบอีกครั้งภายหลัง อีกทั้งบริษัทยังมีแผนสั่งต่อเรือ Small tanker ใหม่อีกจำนวน 6 ลำ ขนาดประมาณ 2,500 เดทเวทตัน (DWT) โดยมีกำหนดการรับเรือในช่วงต้นปี 2569 ดังนั้น จึงเชื่อมั่นว่าภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทนับจากนี้จะเห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต

*******************


บทความที่เกี่ยวข้อง
MEDEZE ผนึก IFCG ขยายฐานธุรกิจ
MEDEZE เดินหน้าขยายฐานธุรกิจ จับมือ IFCG บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและการลงทุนชั้นนำ ลงนาม MOU ในการขยายฐานตัวแทนจำหน่าย ให้คำปรึกษา พร้อมนำเสนอบริการด้านการจัดเก็บสเต็มเซลล์ เจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงของ IFCG ได้เพิ่มอีกกที่มีตำนวนมากว่า 50,000 ราย
17 ม.ค. 2025
MASTER ยันขายบิ๊กล็อตไม่กระทบแผนธุรกิจ
MASTER ย้ำพื้นฐานไม่เปลี่ยน แจงผู้บริหารขายบิ๊กล็อตให้กองทุนต่างประเทศ 4 ราย เพื่อร่วมลงทุนระยะยาว ระบุเพื่อเพิ่ม free float หลังหุ้น MASTER ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ mai เข้ามาเข้าซื้อขายใน SET ยันไม่กระทบแผนการดำเนินธุรกิจ การันตีผลงานงวดไตรมาส 4/67 เติบโตแข็งแกร่ง
17 ม.ค. 2025
COCOCO ขยายฐานสู่ฟิลิปปินส์
COCOCO รุกเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในประเทศฟิลิปปินส์ วางเป้าเสริมความแข็งแกร่งด้านแหล่งวัตถุดิบ โดยเฉพาะ "มะพร้าว" ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญ หวังรองรับความต้องการตลาดโลก ระบุความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจภูมิภาค
17 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy