DOD ลุ้นรายได้ทั้งปีแตะระดับ 800 ล้าน
อัพเดทล่าสุด: 1 ก.ค. 2025
7 ผู้เข้าชม
DOD เผยอุตสาหกรรมกลุ่มธุรกิจเสริมอาหารครึ่งปีหลังยังคงขยายตัวตามเทรนด์คนรักสุขภาพ มั่นใจรายได้จากการผลิตผลิตภัณฑ์ ในฐานะผู้รับจ้างผลิตปีนี้แตะ 450-500 ล้านบาท ขณะที่ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Auswelllife ส่อแววโกยรายได้ 250-300 ล้านบาท ส่งผลตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปีแตะ 700-800 ล้านบาท พร้อมตอกย้ำภายในปีนี้เล็งจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น
นายต่อลาภ ไชยเชาวน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า เปิดเผยว่า ทิศทางอุตสาหกรรมกลุ่มธุรกิจเสริมอาหารในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทเกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงาม ซึ่งเห็นได้จากยอดขายในแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งช่องทางออนไลน์ (Online) และออฟไลน์ (Offline)
"ปัจจุบันผู้ประกอบการเสริมอาหารในอุตสาหกรรมมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งในอดีตที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้จะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น กลุ่มดารานักแสดง เป็นต้น แต่ในปัจจุบันด้วยเทรนด์ของธุรกิจเปลี่ยน คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มแพทย์ คลินิกเสริมความงาม และคอสเมติคส์ หันมาเป็นผู้เล่นในตลาดนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ช่องว่างในตลาดดังกล่าวยังมีการเติบโตได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม เช่น ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพในกลุ่มดวงตา ลำไส้ ระบบขับถ่าย ส่วนผลิตภัณฑ์ด้านความงาม คือการกินแล้วเห็นผล อย่างกลูต้า คอลลาเจน เป็นต้น"
สำหรับยอดคำสั่งผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปัจจุบัน ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีออเดอร์ที่รอส่งมอบให้กับลูกค้า ทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ เฉลี่ยเดือนละกว่า 100 SKUs ทั้งในรูปแบบชงดื่ม เม็ด เจลลี่ แคปซูล ตอกเม็ดโพรไบโอติค และซองกรอกปาก ในขณะที่ผลิตภัณฑ์วิตามินและอาหารเสริม ภายใต้แบรนด์ "Auswelllife" ซึ่งเป็นแบรนด์สุขภาพและความงามที่นำเข้าจากประเทศออสเตรเลียอย่าง AWL DHA algal oil น้ำมันสาหร่ายบำรุงสมองและพัฒนาการสำหรับเด็ก, AWL Colostrum เพิ่มภูมิต้านทาน และ AWL Royal Jelly เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
จากแผนขยายฐานลูกค้ารายใหม่ในส่วนของฐานการผลิต (Production Base) ทั้งกลุ่มลูกค้าในประเทศ และกลุ่มลูกค้าที่ส่งสินค้ามาผลิตเพื่อส่งสินค้าออกไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการกระจายความเสี่ยงและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับบริษัท ขณะเดียวกัน แผนการเร่งขยายฐานกลุ่มตัวแทนขายผลิตภัณฑ์ Auswelllife ก็มีสัดส่วนของตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นทั่วประเทศต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ DOD ตั้งเป้ารายได้จากยอดขายในปี 2568 ที่ระดับ 700-800 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 24% จากปีก่อน ซึ่งจะมาจากฐานการผลิต (Production Base) ประมาณ 450-500 ล้านบาท และรายได้จากฐานการค้าปลีก (Retail Base) ภายใต้บริษัท ออสเวลไลฟ์ จำกัด (AWL) ดำเนินการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ Auswelllife นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ แตะที่ระดับ 250-300 ล้านบาท ดังนั้น หากผลการดำเนินงานเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ จะส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทมีโอกาสกลับมาจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ตามปกติ
"ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน บริษัทมองว่า สิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจคือ การทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการให้ความสำคัญในเรื่องของความซื่อสัตย์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการรักษามาตรฐานและคุณภาพในระดับสูง ดังนั้น ทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญในการคิดค้นสูตรในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ ขณะเดียวกัน นวัตกรรมไลน์การผลิตในโรงงาน ก็ต้องทันสมัย มีประสิทธิภาพในทุกกระบวนการผลิต และสามารถตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้ครบทุกมิติ" นายต่อลาภ กล่าว
*************************
นายต่อลาภ ไชยเชาวน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า เปิดเผยว่า ทิศทางอุตสาหกรรมกลุ่มธุรกิจเสริมอาหารในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทเกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงาม ซึ่งเห็นได้จากยอดขายในแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งช่องทางออนไลน์ (Online) และออฟไลน์ (Offline)
"ปัจจุบันผู้ประกอบการเสริมอาหารในอุตสาหกรรมมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งในอดีตที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้จะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น กลุ่มดารานักแสดง เป็นต้น แต่ในปัจจุบันด้วยเทรนด์ของธุรกิจเปลี่ยน คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มแพทย์ คลินิกเสริมความงาม และคอสเมติคส์ หันมาเป็นผู้เล่นในตลาดนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ช่องว่างในตลาดดังกล่าวยังมีการเติบโตได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม เช่น ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพในกลุ่มดวงตา ลำไส้ ระบบขับถ่าย ส่วนผลิตภัณฑ์ด้านความงาม คือการกินแล้วเห็นผล อย่างกลูต้า คอลลาเจน เป็นต้น"
สำหรับยอดคำสั่งผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปัจจุบัน ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีออเดอร์ที่รอส่งมอบให้กับลูกค้า ทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ เฉลี่ยเดือนละกว่า 100 SKUs ทั้งในรูปแบบชงดื่ม เม็ด เจลลี่ แคปซูล ตอกเม็ดโพรไบโอติค และซองกรอกปาก ในขณะที่ผลิตภัณฑ์วิตามินและอาหารเสริม ภายใต้แบรนด์ "Auswelllife" ซึ่งเป็นแบรนด์สุขภาพและความงามที่นำเข้าจากประเทศออสเตรเลียอย่าง AWL DHA algal oil น้ำมันสาหร่ายบำรุงสมองและพัฒนาการสำหรับเด็ก, AWL Colostrum เพิ่มภูมิต้านทาน และ AWL Royal Jelly เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
จากแผนขยายฐานลูกค้ารายใหม่ในส่วนของฐานการผลิต (Production Base) ทั้งกลุ่มลูกค้าในประเทศ และกลุ่มลูกค้าที่ส่งสินค้ามาผลิตเพื่อส่งสินค้าออกไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการกระจายความเสี่ยงและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับบริษัท ขณะเดียวกัน แผนการเร่งขยายฐานกลุ่มตัวแทนขายผลิตภัณฑ์ Auswelllife ก็มีสัดส่วนของตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นทั่วประเทศต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ DOD ตั้งเป้ารายได้จากยอดขายในปี 2568 ที่ระดับ 700-800 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 24% จากปีก่อน ซึ่งจะมาจากฐานการผลิต (Production Base) ประมาณ 450-500 ล้านบาท และรายได้จากฐานการค้าปลีก (Retail Base) ภายใต้บริษัท ออสเวลไลฟ์ จำกัด (AWL) ดำเนินการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ Auswelllife นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ แตะที่ระดับ 250-300 ล้านบาท ดังนั้น หากผลการดำเนินงานเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ จะส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทมีโอกาสกลับมาจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ตามปกติ
"ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน บริษัทมองว่า สิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจคือ การทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการให้ความสำคัญในเรื่องของความซื่อสัตย์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการรักษามาตรฐานและคุณภาพในระดับสูง ดังนั้น ทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญในการคิดค้นสูตรในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ ขณะเดียวกัน นวัตกรรมไลน์การผลิตในโรงงาน ก็ต้องทันสมัย มีประสิทธิภาพในทุกกระบวนการผลิต และสามารถตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้ครบทุกมิติ" นายต่อลาภ กล่าว
*************************
บทความที่เกี่ยวข้อง
ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้น ณ ห้วงเวลานี้ อาจพูดได้เต็มปากว่า สถานการณ์ปัจจุบันล้วนเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ เพราะในตลาดหุ้น มีหุ้นให้เลือกลงทุนมากมาย และใช่ว่าหุ้นทุกตัวจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งแน่นอนว่า จะมีหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวให้สามารถเลือกลงทุนได้
2 ก.ค. 2025
EA ประกาศแผนการปรับปรับเลื่อนกำหนดชำระหุ้นกู้ จากเดิมที่เคยเสนอเลื่อน 7 ปี เหลือเพียง 5 ปี พร้อมกำหนดชำระเงินต้นคืน โดยสิทธิประโยชน์ด้านดอกเบี้ยและเงื่อนไขอื่นยังคงเดิม ระบุเป็นการแสดงถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหา พร้อมเตรียมนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ครั้งหน้าในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้
1 ก.ค. 2025
GBS ประเมินหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่อง อ้างอิงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอหนุน FED ลดดอกเบี้ย ล่าสุด FedWatch บ่งชี้ความเป็นไปได้ที่ FED ลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้ รวมทั้งปัญหาการเมืองในประเทศที่ขาดเสถียรภาพ แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้อานิสงส์โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง แนะหุ้นเด่น AWC, MINT, ERW, CENTEL และ SHR
1 ก.ค. 2025