แชร์

GBS ชี้เป้าหุ้นเด่นรับอานิสงส์เที่ยวไทย

อัพเดทล่าสุด: 1 ก.ค. 2025
45 ผู้เข้าชม

GBS ประเมินหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่อง อ้างอิงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอหนุน FED ลดดอกเบี้ย ล่าสุด FedWatch บ่งชี้ความเป็นไปได้ 76% ว่า FED ลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้ ประกอบกับปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์สหรัฐฯ อิหร่านพร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ รวมทั้งปัญหาการเมืองในประเทศที่ขาดเสถียรภาพ ให้กรอบดัชนีฯ ที่ 1,050-1,120 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้อานิสงส์โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง แนะหุ้นเด่น AWC,  MINT, ERW, CENTEL และ SHR

               นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (GBS) เปิดเผยว่า ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ยังแกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สนับสนุนความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED โดยทาง FedWatch บ่งชี้ความเป็นไปได้ 76% ว่า FED จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีในเดือนกันยายน และมีโอกาสเพียง 19% ที่ FED จะลดอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดภายในเดือนกรกฎาคม

               ส่วนปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ยังมีความเสี่ยงสูง หลังรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ประกาศว่า ยังไม่มีการตกลงหรือให้คำมั่นใดๆ เรื่องจะกลับไปเจรจากับสหรัฐฯ แม้ขณะนี้ความตึงเครียดจะพุ่งสูงขึ้นมาก หลังอิสราเอลกับสหรัฐฯ โจมตีในพื้นที่อิหร่าน สวนทางกับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศไว้ว่า สหรัฐฯ วางแผนจะคุยกับอิหร่านสัปดาห์หน้า

               ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังถูกกดดันจากสถานการณ์การเมืองในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะการปรับ ครม. การยุบสภา และการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจที่ยังไม่มีความไม่แน่นอน  ซึ่งแกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินชุดใหญ่จะนัดประชุมประเมินสถานการณ์ทางการเมืองเพื่อยกระดับการต่อสู้และกำหนดทิศทางให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น จึงมองกรอบดัชนีที่ 1,050-1,120 จุด

               นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก  แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่คาดการณ์ว่าจะได้ประโยชน์จากโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ซึ่งได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนจองที่พัก และเที่ยวจริงเริ่ม 4 กรกฎาคมนี้ โดยรัฐบาลได้เชิญชวนคนไทยใช้สิทธิ์รับเงินสนับสนุนสูงสุด 3,000 บาท โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าวได้แก่  AWC,  MINT, ERW, CENTEL และ SHR



               ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก ประเมินว่า ราคาทองคำมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวน โดยมีแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางคลี่คลายลง อีกทั้งมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากประธาน FED เผยว่า FED ไม่เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากยังรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีทรัมป์

               อย่างไรก็ตาม เครื่องมือ FedWatch Tool บ่งชี้นักลงทุนคาดว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็น 3 ครั้งในปีนี้ จากเดิมคาด 2 ครั้ง หลังสหรัฐฯ เผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาเป็นปัจจัยหนุนทองคำ ประกอบกับอาจมีแรงซื้อทางเทคนิคเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมหลังราคาทองคำปรับตัวลงแรง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยแนะนำให้ติดตามการประกาศตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวมีผลต่อการตัดสินใจทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ FED  มองกรอบทองคำสัปดาห์นี้ 3,230-3,350 เหรียญ หากหลุดแนวรับให้ชะลอการลงทุน

************************


บทความที่เกี่ยวข้อง
Maxbit เปิดตัวระบบ Grid Trading
Maxbit พร้อมผลักดันนวัตกรรมการลงทุนคริปโตฯ ไปอีกขั้น ผ่านการเปิดตัวระบบ "Grid Trading" เป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย ระบุเป็นระบบที่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ผู้ลงทุนสามารถกำหนดช่วงราคาการเทรดเองได้
8 ก.ค. 2025
YLG มองทองคำมีลุ้นแตะ 3,500 ดอลลาร์
YLG เปิดปัจจัยหนุนราคาทองคำ ระบุยังมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คาดปีนี้ทองคำยังมีลุ้นที่ 3,500 ดอลลาร์ หากผ่านได้มีโอกาสพุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดที่ 3,650 ดอลลาร์ หลังครึ่งปีแรกราคาพุ่งแล้ว 25% พร้อมเปิดสถิติย้อนหลัง 20 ปี พบผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึงปีละ 9.36%
8 ก.ค. 2025
GBS แนะหุ้นหลบภัยช่วงตลาดขาลง
GBS ประเมินภาพรวมหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงปรับตัวลงต่อ หลังผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีไทยในอัตรา 36% กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนเรื่องขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีการค้าโลก แนะกลยุทธ์ลหลบภัยช่วงตลาดหุ้นขาลง ชู ADVANC, PR9, TISCO, BGRIM เด่น
8 ก.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy