แชร์

ราคาทองมาไกล แต่ยังมีลุ้นไปได้ต่อ

อัพเดทล่าสุด: 30 ต.ค. 2024
268 ผู้เข้าชม

YLG ประเมินราคาทองคำปีนี้มาไกลมาก แต่ยังมีลุ้นขึ้นได้อีกถึง 2,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หรือ 45,600 บาทต่อบาททองคำ หากมีปัจจัยหนุนที่มากพอ ทั้งเฟดลดดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% และเหตุปะทะในตะวันออกกลาง รวมไปถึงความผันผวนจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ

               ระยะสั้นมองเทรนด์ทองแกว่งตัวรอผลการประชุมเฟด และผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ สัปดาห์หน้าแนะเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง แบ่งขายทำกำไรที่โซน 2,800-2,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และหาจังหวะซื้อกลับที่ 2,724-2,708 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์

               นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ปี 2567 ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง นับจากต้นปีราคาทองคำอยู่ที่บริเวณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ในปีนี้ราคาทองคำจึงปรับตัวมาแล้วกว่า 750 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งถือว่าปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

               อย่างไรก็ดี มองว่าปีนี้แม้จะเหลือเวลาอีกประมาณ 2 เดือน ยังมองว่า ทองคำมีโอกาสปรับขึ้นได้อีกเล็กน้อย แต่หากมีปัจจัยสนับสนุนที่แรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เช่น ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบถัดไปที่ 0.25% หากผลออกมาพบว่าปรับลดลงมากกว่าที่คาดก็จะสนับสนุนให้ทองคำไปได้ถึง 2,800-2,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ รวมถึงหากมีปัจจัยความไม่สงบหรือเหตุปะทะในตะวันออกกลางบานปลาย ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทองคำปรับตัวขึ้นไปได้เช่นกัน  ทั้งนี้ ในสัปดาห์จะมีการเลือกตั้งสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มกรอบการแกว่งตัวให้ราคาผันผวนมากขึ้น  ขณะที่ เป้าหมายของราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 44,800-45,600 บาทต่อบาททองคำ

               สำหรับประเด็นเรื่องการเลือกตั้งสหรัฐฯ นั้น มองว่าภาพรวมยังคาดการณ์ได้ยาก เนื่องจากผลการเลือกตั้งยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งหากผลออกมาว่า ฝั่งพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง ภาพรวมทิศทางทองคำน่าจะดำเนินต่อไปเช่นในปัจจุบัน เนื่องจากทางพรรคน่าจะยังคงการเดินนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง แต่หากพรรครีพับลิกันชนะจะยังไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดทองคำได้ เพราะมีโอกาสเป็นได้ทั้งการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนโยบายของพรรคจะเป็นการชูแคมเปญอเมริกาต้องมาก่อน ซึ่งจะทำให้เกิดการขึ้นภาษีประเทศคู่ค้า และนโยบายที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ซึ่งอาจจะทำให้เงินเฟ้อกลับมา ดังนั้น นโยบายลดดอกเบี้ยอาจจะต้องชะงักไว้ ซึ่งจะกดดันทองคำ แต่หากภาพรวมเศรษฐกิจมีความน่ากังวลทองคำก็จะกลับมาพุ่งแรงได้เช่นกัน

               อย่างไรก็ดี ก่อนจะถึงวันเลือกตั้งและวันประชุมของเฟด ทิศทางทองคำจะเป็นลักษณะแกว่งตัวในกรอบ นักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้น โดยมองแนวต้านที่โซน 2,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวรับที่ 2,724-2,708 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แนะนำให้นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง เนื่องจากราคาทองคำปีนี้ปรับตัวขึ้นมาไกลมากแล้ว หากทองคำไปถึงแนวต้านแนะนำให้แบ่งขายทำกำไร และหากราคาขยับไปถึงเป้าหมาย 2,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ให้ระวังแรงขายรอบใหญ่

**************************


บทความที่เกี่ยวข้อง
ATLAS รอฤกษ์ขาย IPO ส่งหุ้นเข้า SET
ATLAS ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG ภายใต้เครื่องหมายการค้า "PT" ประกาศพร้อมเดินหน้าเสนอขาย IPO จำนวน 418.42 ล้านหุ้น เข้าจดทะเบียนใน SET คาดส่งหุ้นลงกระดานเทรดได้ภ่ยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ระดมทุนขยายฐานธุรกิจ
20 พ.ค. 2025
SKIN จับมือ APM เดินสายโรดโชว์
SKIN ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามแบรนด์ไทย Skinsista และ Dermie จับมือ APM ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) เดินสายโรดโชว์ นำเสนอข้อมูลธุรกิจ ข้อมูลทางการเงิน ก่อนเสนอขาย IPO เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai
20 พ.ค. 2025
MEDEZE เสริมทัพทีมผู้บริหาร
MEDEZE เดินหน้าเสริมทัพ แต่งตั้ง "ปิยวัชร ราชพลสิทธิ์" นั่งรองประธานกรรมการบริษัท ร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสุขภาพสู่ระดับสากล ระบุถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของ MEDEZE ในการเติมเต็มทีมบริหารระดับสูง ให้พร้อมรับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
20 พ.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy