แชร์

MTC ปิดดีลขายหุ้นกู้ 3 ชุดใหม่

อัพเดทล่าสุด: 31 ต.ค. 2024
197 ผู้เข้าชม

MTC เผยหุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ได้รัยบความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม สามารถขายได้หมดทั้งจำนวน มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุนพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม ตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โต 15-20% พร้อมคุม NPL ให้ไม่เกิน 3.20%

               นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ ระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคมที่ผ่านมา ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 3 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.50% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 2 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.80% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี 7 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้  อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ อยู่ในระดับ Investment Grade ที่ A-  แนวโน้มอันดับเครดิต "มีเสถียรภาพ" ซึ่งจัดโดยฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 โดยผลการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม สามารถปิดการขายได้เต็มจำนวน ส่งผลให้บริษัทสามารถระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท

               สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้รับไปชำระคืนหนี้จากการออกหุ้นกู้ และหรือ ใช้เป็นเงินเพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อของบริษัทที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม โดยบริษัทตั้งเป้าสินเชื่อปี 2567 เติบโต 15-20% พร้อมคุม NPL ให้ไม่เกิน 3.20% ควบคู่การปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรมภายใต้หลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้

               "บริษัทมุ่งมั่นที่จะขยายโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในสังคมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินตามเป้าหมายของสหประชาชาติ ผ่านสาขากว่า 7,980 แห่ง โดยเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม สร้างสังคมไทยให้เป็นสุข และตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โต 15-20% พร้อมกับคุม NPL ให้ไม่เกิน 3.20% และปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง พัฒนากระบวนการปล่อยสินเชื่อตลอดห่วงโซ่ของกิจการ เพื่อรักษาผลประโยชน์และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุด" นายปริทัศน์ กล่าว

               ทั้งนี้ บริษัทคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน จนได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ "ดีเลิศ" หรือ 5 ดาว รวมถึงผลประเมินหุ้นยั่งยืน (ESG Rating) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในระดับ A และผลประเมิน MSCI Index ในระดับ AA ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในมาตรฐานระดับโลก รวมถึงความร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลก อาทิ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) รัฐบาลเยอรมนี (KfW DEG) บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC) ซึ่งเป็นสถาบันในกลุ่มธนาคารโลก และยินดีที่จะระดมความร่วมมือกับแหล่งเงินทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศอีกหลายแห่งในอนาคต เพื่อสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต รักษาเสถียรภาพทางสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นที่พึ่งทางการเงินและเติบโตเคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน

***********************


บทความที่เกี่ยวข้อง
Maxbit เปิดตัวระบบ Grid Trading
Maxbit พร้อมผลักดันนวัตกรรมการลงทุนคริปโตฯ ไปอีกขั้น ผ่านการเปิดตัวระบบ "Grid Trading" เป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย ระบุเป็นระบบที่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ผู้ลงทุนสามารถกำหนดช่วงราคาการเทรดเองได้
8 ก.ค. 2025
YLG มองทองคำมีลุ้นแตะ 3,500 ดอลลาร์
YLG เปิดปัจจัยหนุนราคาทองคำ ระบุยังมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คาดปีนี้ทองคำยังมีลุ้นที่ 3,500 ดอลลาร์ หากผ่านได้มีโอกาสพุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดที่ 3,650 ดอลลาร์ หลังครึ่งปีแรกราคาพุ่งแล้ว 25% พร้อมเปิดสถิติย้อนหลัง 20 ปี พบผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึงปีละ 9.36%
8 ก.ค. 2025
GBS แนะหุ้นหลบภัยช่วงตลาดขาลง
GBS ประเมินภาพรวมหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงปรับตัวลงต่อ หลังผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีไทยในอัตรา 36% กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนเรื่องขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีการค้าโลก แนะกลยุทธ์ลหลบภัยช่วงตลาดหุ้นขาลง ชู ADVANC, PR9, TISCO, BGRIM เด่น
8 ก.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy