แชร์

PTG สุดแกร่ง กำไร 9 เดือนโตกว่า 90%

อัพเดทล่าสุด: 14 พ.ย. 2024
183 ผู้เข้าชม

PTG แรงดีไม่มีแผ่ว โชว์ยอดขายงวด 9 เดือนแรกที่ระดับ 167,132 ล้านบาท กำไรสุทธิ 806 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.1% จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่ปริมาณการขายน้ำมันผ่านทุกช่องทางทุบสถิติสูงสุดใหม่ ครองส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันผ่านช่องทางสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 21.3% พร้อมประกาศจ่ายปันผลในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 26 พฤศจิกายนนี้

         นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2567 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 806 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 424 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานที่ 0.48 บาทต่อหุ้น ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 167,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.0% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 149,286 ล้านบาท ขณะที่งวดไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 24 ล้านบาท

         "การเติบโตของรายได้ดังกล่าวมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Oil มีรายได้เติบโตที่ 11.0% เป็น 154,640 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางยังคงสร้างสถิติยอดขายสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็น 5,013 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้นถึง 13.6% คิดเป็นการจำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการ PT จำนวน 4,886 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 14.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมยังคงเติบโตกว่า 10% เทียบจากปีก่อนหน้า ทั้งจากลูกค้าใหม่และกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus รวมถึงปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ส่งผลทำให้บริษัทครองส่วนแบ่งตลาดผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 21.3% เมื่อเทียบกับ 18.7% ในปีก่อนหน้า โดยบริษัทมีการขยายสถานีบริการน้ำมัน PT เพิ่มขึ้น 1.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 2,214 สถานี"

         สำหรับธุรกิจงวด 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้จำนวน 12,492  ล้านบาท เติบโต 25.8% โดยการเติบโตของยอดขายเป็นผลมาจากธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยและธุรกิจ Non-Oil อื่นๆ   ซึ่งธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยที่มีรายได้จากการขายและการบริการที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ 75.1% เป็นจำนวน 1,540 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยงวด 9 เดือนของปี 2567 มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 1,126 สาขา เพิ่มขึ้น 48.9% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายอัตราการเติบโตของยอดขายทั้งปีในธุรกิจ Non-Oil (ไม่รวมธุรกิจ LPG) ไม่ต่ำกว่า 40-50%  เมื่อเทียบปีก่อน

         ขณะเดียวกัน การใช้บริการอย่างต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้ารายเดิมและจากกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus  ที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม ยังคงอยู่ในระดับ 20-30% รวมถึงการทำแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงวางเป้าหมายการขยายสาขาของกาแฟพันธุ์ไทยเป็น 1,282 สาขา ณ สิ้นปี ซึ่งยังคงเน้นขยายไปในพื้นที่ที่มีศักยภาพ

         ทั้งนี้ ในงวด 9 เดือนบริษัทมีสาขาของธุรกิจ Non-Oil รวมทั้งสิ้น 1,878 สาขา (ไม่รวมสาขาธุรกิจ LPG) เพิ่มขึ้น 525  สาขา หรือเติบโต 38.8% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากธุรกิจ Non-Oil คิดเป็นสัดส่วน 7.5% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 6.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

         สำหรับธุรกิจอื่นๆ ภายใต้ธุรกิจ Non-Oil บริษัทยังคงวางแผนขยายสาขาและ Touchpoints อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าจำนวนสาขาธุรกิจ Non-Oil อื่นๆ เป็นจำนวน 961 Touchpoints เพิ่มขึ้น 329 Touchpoints โดยการขยายสาขาจำนวนหลักๆ มาจากธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs สถานีอัดประจุไฟฟ้า Elex by EGAT PT และสาขาร้านสะดวกซื้อ Max Mart เป็นต้น

         ส่วนแนวโน้มการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทาง และอุปสงค์การใช้น้ำมันในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังมีทิศทางที่ดี บริษัทจึงคงเป้าการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางที่ 10-15% เทียบปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ Upgrade เป้ามาแล้วจาก 8-12%  ที่ตั้งไว้ช่วงต้นปี และคาดว่าจะมีสถานีบริการน้ำมันครบ 2,251 สาขาภายในปีนี้

         จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น สำหรับหุ้นจำนวน 1,670 ล้านหุ้น เป็นจำนวนเงินรวม 167,000,000 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) ในวันที่ 27 พฤศจิกายน กำหนดวันไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 26 พฤศจิกายน และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 ธันวาคม 2567

         "บริษัทยังคงตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม จึงผนวกความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัท เพื่อหวังเชื่อมให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ "อยู่ดี มีสุข" ในทุกช่วงของชีวิต โดยยังคงขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อเน้นย้ำความพยายามในการรักษาสมดุลระหว่างการดำเนินงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ขับเคลื่อนไปด้วยกัน" นายพิทักษ์ กล่าว

***************************


บทความที่เกี่ยวข้อง
GBS ชี้ช่องลงทุนรับมือวิกฤตเศรษฐกิจ
GBS มองภาษีทรัมป์ 36% สร้างแรงกดวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการส่งออก ลุ้นบทสรุปการเจรจาเรื่องภาษีก่อนครบกำหนดบังคับใช้ แนะหันมาลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic Plays เพื่อลดความผันผวน พร้อมให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่ม Healthcare Tourism รับโอกาสไทยยังเติบโตจากธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
15 ก.ค. 2025
CIVIL ตั้งเป้าเติม Backlog แตะ 6 พันล.
CIVIL มุ่งรักษาเสถียรภาพธุรกิจท่ามกลางภาวะผันผวน เผยทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังเตรียมส่งมอบ 3 โครงการ พร้อมจ่อเซ็นสัญญาใหม่ 4 โครงการ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท รุกประมูลงานต่อเนื่อง ตั้งเป้าเติม Backlog ทั้งปีที่ 6,000 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์ FAST เสริมความแข็งแกร่งทุกมิติ
14 ก.ค. 2025
MEDEZE ให้ข้อมูลนักวิเคราะห์
MEDEZE ร่วมเจาะลึกอนาคตการแพทย์ระดับโลก ให้ข้อมูลนักวิเคราะห์และนักลงทุนจาก CGSI และ KKPFG ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมกิจการ ฉายภาพรวมธุรกิจ เข้ารับฟังเรื่องการจัดเก็บเซลล์ภูมิคุ้มกัน NK Cell การจัดเก็บสเต็มเซลล์ ทั้งได้เข้าเยี่ยมชมแล็บที่ได้รับรองมาตรฐาน
14 ก.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy