แชร์

PTG สุดแกร่ง กำไร 9 เดือนโตกว่า 90%

อัพเดทล่าสุด: 13 พ.ย. 2024
88 ผู้เข้าชม

PTG แรงดีไม่มีแผ่ว โชว์ยอดขายงวด 9 เดือนแรกที่ระดับ 167,132 ล้านบาท กำไรสุทธิ 806 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.1% จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่ปริมาณการขายน้ำมันผ่านทุกช่องทางทุบสถิติสูงสุดใหม่ ครองส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันผ่านช่องทางสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 21.3% พร้อมประกาศจ่ายปันผลในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 26 พฤศจิกายนนี้

         นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2567 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 806 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 424 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานที่ 0.48 บาทต่อหุ้น ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 167,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.0% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 149,286 ล้านบาท ขณะที่งวดไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 24 ล้านบาท

         "การเติบโตของรายได้ดังกล่าวมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Oil มีรายได้เติบโตที่ 11.0% เป็น 154,640 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางยังคงสร้างสถิติยอดขายสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็น 5,013 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้นถึง 13.6% คิดเป็นการจำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการ PT จำนวน 4,886 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 14.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมยังคงเติบโตกว่า 10% เทียบจากปีก่อนหน้า ทั้งจากลูกค้าใหม่และกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus รวมถึงปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ส่งผลทำให้บริษัทครองส่วนแบ่งตลาดผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 21.3% เมื่อเทียบกับ 18.7% ในปีก่อนหน้า โดยบริษัทมีการขยายสถานีบริการน้ำมัน PT เพิ่มขึ้น 1.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 2,214 สถานี"

         สำหรับธุรกิจงวด 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้จำนวน 12,492  ล้านบาท เติบโต 25.8% โดยการเติบโตของยอดขายเป็นผลมาจากธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยและธุรกิจ Non-Oil อื่นๆ   ซึ่งธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยที่มีรายได้จากการขายและการบริการที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ 75.1% เป็นจำนวน 1,540 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยงวด 9 เดือนของปี 2567 มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 1,126 สาขา เพิ่มขึ้น 48.9% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายอัตราการเติบโตของยอดขายทั้งปีในธุรกิจ Non-Oil (ไม่รวมธุรกิจ LPG) ไม่ต่ำกว่า 40-50%  เมื่อเทียบปีก่อน

         ขณะเดียวกัน การใช้บริการอย่างต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้ารายเดิมและจากกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus  ที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม ยังคงอยู่ในระดับ 20-30% รวมถึงการทำแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงวางเป้าหมายการขยายสาขาของกาแฟพันธุ์ไทยเป็น 1,282 สาขา ณ สิ้นปี ซึ่งยังคงเน้นขยายไปในพื้นที่ที่มีศักยภาพ

         ทั้งนี้ ในงวด 9 เดือนบริษัทมีสาขาของธุรกิจ Non-Oil รวมทั้งสิ้น 1,878 สาขา (ไม่รวมสาขาธุรกิจ LPG) เพิ่มขึ้น 525  สาขา หรือเติบโต 38.8% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากธุรกิจ Non-Oil คิดเป็นสัดส่วน 7.5% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 6.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

         สำหรับธุรกิจอื่นๆ ภายใต้ธุรกิจ Non-Oil บริษัทยังคงวางแผนขยายสาขาและ Touchpoints อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าจำนวนสาขาธุรกิจ Non-Oil อื่นๆ เป็นจำนวน 961 Touchpoints เพิ่มขึ้น 329 Touchpoints โดยการขยายสาขาจำนวนหลักๆ มาจากธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs สถานีอัดประจุไฟฟ้า Elex by EGAT PT และสาขาร้านสะดวกซื้อ Max Mart เป็นต้น

         ส่วนแนวโน้มการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทาง และอุปสงค์การใช้น้ำมันในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังมีทิศทางที่ดี บริษัทจึงคงเป้าการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางที่ 10-15% เทียบปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ Upgrade เป้ามาแล้วจาก 8-12%  ที่ตั้งไว้ช่วงต้นปี และคาดว่าจะมีสถานีบริการน้ำมันครบ 2,251 สาขาภายในปีนี้

         จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น สำหรับหุ้นจำนวน 1,670 ล้านหุ้น เป็นจำนวนเงินรวม 167,000,000 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) ในวันที่ 27 พฤศจิกายน กำหนดวันไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 26 พฤศจิกายน และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 ธันวาคม 2567

         "บริษัทยังคงตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม จึงผนวกความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัท เพื่อหวังเชื่อมให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ "อยู่ดี มีสุข" ในทุกช่วงของชีวิต โดยยังคงขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อเน้นย้ำความพยายามในการรักษาสมดุลระหว่างการดำเนินงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ขับเคลื่อนไปด้วยกัน" นายพิทักษ์ กล่าว

***************************


บทความที่เกี่ยวข้อง
MEDEZE ผนึก IFCG ขยายฐานธุรกิจ
MEDEZE เดินหน้าขยายฐานธุรกิจ จับมือ IFCG บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและการลงทุนชั้นนำ ลงนาม MOU ในการขยายฐานตัวแทนจำหน่าย ให้คำปรึกษา พร้อมนำเสนอบริการด้านการจัดเก็บสเต็มเซลล์ เจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงของ IFCG ได้เพิ่มอีกกที่มีตำนวนมากว่า 50,000 ราย
17 ม.ค. 2025
MASTER ยันขายบิ๊กล็อตไม่กระทบแผนธุรกิจ
MASTER ย้ำพื้นฐานไม่เปลี่ยน แจงผู้บริหารขายบิ๊กล็อตให้กองทุนต่างประเทศ 4 ราย เพื่อร่วมลงทุนระยะยาว ระบุเพื่อเพิ่ม free float หลังหุ้น MASTER ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ mai เข้ามาเข้าซื้อขายใน SET ยันไม่กระทบแผนการดำเนินธุรกิจ การันตีผลงานงวดไตรมาส 4/67 เติบโตแข็งแกร่ง
17 ม.ค. 2025
COCOCO ขยายฐานสู่ฟิลิปปินส์
COCOCO รุกเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในประเทศฟิลิปปินส์ วางเป้าเสริมความแข็งแกร่งด้านแหล่งวัตถุดิบ โดยเฉพาะ "มะพร้าว" ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญ หวังรองรับความต้องการตลาดโลก ระบุความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจภูมิภาค
17 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy