88TH รอฤกษ์ขาย IPO ส่งหุ้นเข้า mai
88TH ประกาศความพร้อมเข้าเป็นสมาชิกใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ mai หลังเสร็จสิ้นกระบวนการยื่นไฟลิ่ง รอไฟเขียวเสนอขาย IPO จำนวน 59.5 ล้านหุ้น ระดมทุนขยายฐานธุรกิจ ชูวิสัยทัศน์ "ก้าวสู่หนึ่งในผู้นำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามอันดับ 1 ในเอเชีย เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน" มุ่งมั่นพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้วยการคัดสรรส่วนผสมจากธรรมชาติและใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสามารถตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท 88 (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ 88TH กล่าวว่า 88TH ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์ของตนเอง ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ (Hair care) แบรนด์ LYO (ไลโอ) กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนัง (Skincare) แบรนด์ Hone (โฮน) เครื่องสำอางค์ (Cosmetics) แบรนด์ ver.88 (เวอร์ 88)ได้ยื่นแบบแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 59.50 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 28 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และจะเข้าซื้อขายในหมวดธุรกิจ สินค้าอุปโภคบริโภค (CONSUMP)
สำหรับหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ จำนวน 59.50 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 28 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของบริษัท จำนวนไม่เกิน 42.5 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 20 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Ilkano Pte. Ltd จำนวนไม่เกิน 17 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 8 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้
ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) บมจ. 88 (ไทยแลนด์) จะมีทุนจดทะเบียน 212.5 ล้านบาท คิดเป็น 212.5 ล้านหุ้น จากปัจจุบันมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 170 ล้านบาท คิดเป็น 170 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) ที่หุ้นละ 1 บาท
ด้านนางณัฐฐินี ชวนะนิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท 88 (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม ภายใต้วิสัยทัศน์ ผู้นำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามอันดับ 1 ในเอเชีย เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน โดยมุ่งมั่นพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้วยการคัดสรรส่วนผสมจากธรรมชาติและใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสามารถตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค รวมถึงมีบริษัทย่อยที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ ผ่านการรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์และให้คำแนะนำการออกแบบผลิตภัณฑ์ (OEM/ODM) เพื่อต่อยอดและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
สำหรับ 88TH ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ภายใต้ 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ (Hair care) แบรนด์ LYO (ไลโอ) ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ลดผมร่วง (LYO Anti-Hair Loss) ผลิตภัณฑ์แชมพูปิดผมขาว (LYO Hair Color) และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจากสารสกัดสมุนไพร (LYO Herbal) 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนัง (Skincare) แบรนด์ Hone (โฮน) ได้แก่ โฮน อินเทนซีฟ โบทานี เซรั่ม และ โฮน ครีมกันแดด เป็นต้น และ3.กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ ver.88 (เวอร์.88) ประกอบด้วย แป้งผสมรองพื้นหรือแป้งดินน้ำมัน รองพื้น บลัชเชอร์ ลิปสติก ดินสอเขียนคิ้ว อายไลน์เนอร์ ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ได้รับความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วประเทศฃ
ทั้งนี้ บริษัทได้มุ่งเพิ่มศักยภาพการจัดจำหน่ายให้มีความแข็งแกร่งเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ประกอบด้วย ตัวแทนจำหน่าย (Agent) ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ชั้นนำ (Modern trade) ช่องทางการสั่งซื้อที่บ้าน (Home shopping) และผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์มาร์เก็ตเพลสต่างๆ เช่น ช้อปปี้ (Shopee) ลาซาด้า (Lazada) และติ๊กต๊อกช้อป (Tiktok shop) เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า อีกทั้งยังสอดรับพฤติกรรมการซื้อสินค้าในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
ส่วนภาพรวมการดำเนินงานในปี 2564-66 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 290.13 ล้านบาท 268.77 ล้านบาท 369.07 ล้านบาท และ 343.69 ล้านบาท ตามลำดับ โดย 9 เดือนแรกของปี 2567 รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 343.09 ล้านบาท เติบโต 31.08% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 32.47 ล้านบาท เป็นผลจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการขยายช่องทางจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมและเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภท ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ หรือประกาศอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้
**************************