MENA ย้ำเป้ารายได้โตเกิน 10%
อัพเดทล่าสุด: 25 ธ.ค. 2024
37 ผู้เข้าชม
MENA เปิดแผนขับเคลื่อนธุรกิจปี 68 เพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถจาก fleet ที่มีอยู่ รองรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ขยายตัว พร้อมเพิ่มมาร์เก็ตแชร์รถมิกเซอร์ เน้นให้ความสำคัญกับ ESG เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งเป้ารายได้โตกว่า 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง รับอานิสงส์ธุรกิจโลจิสติกส์ทุกประเภทขยายตัว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาลง และภาคอุปโภคและบริโภคยังเติบโต
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจและผลการดำเนินงานในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2567 เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการรถมิกเซอร์ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัว ขานรับการขยายตัวของการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2568 ไว้ไม่ต่ำกว่า 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถ (Utilization) จาก Fleet ที่มีอยู่
ทั้งนี้ ปัจจุบัน Utilization ของรถ Mixer อยู่ที่ประมาณ 800 ลูกบาศก์เมตรต่อไตรมาสต่อคัน (Q per Car) ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเคยทำได้ถึง 920 Q per Car ต่อไตรมาส ดังนั้น หากการลงทุนของภาครัฐและเอกชนยังมีทิศทางเพิ่มขึ้นก็จะสามารถเพิ่ม Q per Car ได้ ซึ่งก็จะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2568 นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้ตามแผนที่วางไว้แล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับ ESG เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากร และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารงานเพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้รถขนส่งที่มีอยู่ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) โดยเฉพาะรถ Mixer
นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด เช่น รถ EV ที่ปัจจุบันมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) ที่เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญภายใต้นโยบาย European Green Deal ที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในสหภาพยุโรปและประเทศคู่ค้า โดยมองว่าเป็นโอกาสที่ดี ดังนั้น การลงทุนใน EV จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกับคู่ค้า ฃ
ส่วนทิศทางอุตสาหกรรมการก่อสร้างปี 2568 เชื่อว่าจะดีกว่าปีก่อน โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐที่เริ่มส่งสัญญาณปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง และภาคอุปโภคและบริโภคที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัท ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ MENA มีแผนในการขยาย Fleet รถเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการขยายสาขาของบริษัท ซี.เจ.เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด (CJ) ดังนั้น ธุรกิจโลจิสติกส์ คาดว่าน่าจะสดใสไปในทิศทางเดียวกัน
**************************
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจและผลการดำเนินงานในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2567 เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการรถมิกเซอร์ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัว ขานรับการขยายตัวของการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2568 ไว้ไม่ต่ำกว่า 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถ (Utilization) จาก Fleet ที่มีอยู่
ทั้งนี้ ปัจจุบัน Utilization ของรถ Mixer อยู่ที่ประมาณ 800 ลูกบาศก์เมตรต่อไตรมาสต่อคัน (Q per Car) ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเคยทำได้ถึง 920 Q per Car ต่อไตรมาส ดังนั้น หากการลงทุนของภาครัฐและเอกชนยังมีทิศทางเพิ่มขึ้นก็จะสามารถเพิ่ม Q per Car ได้ ซึ่งก็จะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2568 นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้ตามแผนที่วางไว้แล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับ ESG เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากร และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารงานเพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้รถขนส่งที่มีอยู่ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) โดยเฉพาะรถ Mixer
นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด เช่น รถ EV ที่ปัจจุบันมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) ที่เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญภายใต้นโยบาย European Green Deal ที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในสหภาพยุโรปและประเทศคู่ค้า โดยมองว่าเป็นโอกาสที่ดี ดังนั้น การลงทุนใน EV จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกับคู่ค้า ฃ
ส่วนทิศทางอุตสาหกรรมการก่อสร้างปี 2568 เชื่อว่าจะดีกว่าปีก่อน โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐที่เริ่มส่งสัญญาณปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง และภาคอุปโภคและบริโภคที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัท ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ MENA มีแผนในการขยาย Fleet รถเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการขยายสาขาของบริษัท ซี.เจ.เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด (CJ) ดังนั้น ธุรกิจโลจิสติกส์ คาดว่าน่าจะสดใสไปในทิศทางเดียวกัน
**************************
บทความที่เกี่ยวข้อง
GBS ปักหมุดให้บริการด้านการลงทุนในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น หลังประสบความสำเร็จปีแรกกวาดยอดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารแล้ว 200 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 2568 ยอดยอดสินทรัพย์แตะระดับ 500 ล้านบาท ชูจุดเด่นลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในตลาดหุ้นไทย
7 ม.ค. 2025
SUPER เตรียมเปิดขายหุ้นกู้ชุดใหม่ จำนวน 2 ชุด อายุ 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.25-5.50% และอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.75-6.00% จ่ายทุก 3 เดือน เผยถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป ระบุถือเป็นทางเลือกการออมและการลงทุน อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับจูงใจ
7 ม.ค. 2025
กลุ่มบริษัทเสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP Group) เดินหน้าสร้างความยั่งยืนควบคู่ไปกับสังคมและสิ่งแวดล้อม ในโครงการ "Light for Life พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน"
7 ม.ค. 2025