PCE ยันราคาปาล์มผันผวนไม่มีผลกระทบ
อัพเดทล่าสุด: 25 ธ.ค. 2024
184 ผู้เข้าชม
PCE ยันไม่ได้รับผลกระทบราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปรับตัวปรับลดลง เหตุ Stock ภายในไทยต่ำ ขณะที่วิกฤตการณ์น้ำท่วมส่งผลให้ราคาในประเทศยืนสูงกว่าตลาดโลก ยังมั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/67 คาดเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากดีมานด์การใช้น้ำมันปาล์มในประเทศที่ยังคงเติบโต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่น หลังประเมินการบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศ รวมทั้งความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบขยายตัวเฉลี่ยระดับ 6-7% ผลักดันให้รายได้รวมในปี 2567 เติบโต 10-15% ตามเป้าที่วางไว้
นายพรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจรที่มีความพร้อมการจัดการระบบซัพพลายเชน เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปรับตัวลดลง แต่ในส่วนของในประเทศไทยราคายังคงที่ เนื่องจากปัจจุบัน Stock ภายในไทยต่ำ รวมทั้งกับวิกฤตการณ์น้ำท่วม จึงทำให้ราคาน้ำมันปาล์ม (CPO) ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันปาล์ม (CPO) ในตลาดโลก
"ราคาน้ำมันปาล์มดิบในไทยยังไม่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของราคาตลาดโลกมากนัก เนื่องจากผลผลิตปาล์มสดยังคงลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นไตรมาสที่ 4/67 โดยคาดการณ์ ณ เดือนธันวาคม อยู่ที่ 1 ล้านตัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนราว 2% และลดลงจากช่วงเดียวกันในปี 2566 ที่ราว 8%"
ทั้งนี้จากการที่ฝนตกหนักในบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมัน ประกอบกับบางพื้นที่มีน้ำท่วมขังไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลปาล์มสดได้ อาจส่งผลให้ผลผลิตปาล์มสดที่ออกสู่ตลาดมีแนวโน้มต่ำกว่าคาด
ขณะที่ความต้องการน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศ ณ เดือนธันวาคม ยังคงอยู่ในระดับสูงราว 200,000 ตัน ทั้งจากการอุปโภคในภาคพลังงานและการบริโภคในอุตสาหกรรมอาหารและอื่นๆ ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงคลังต่ำกว่า 190,000 ตันแล้ว โดยระดับราคาผลปาล์มสดภายในประเทศเคลื่อนที่อยู่ระหว่าง 7.30-8.60 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับน้ำมันปาล์มดิบระดับราคาภายในประเทศเคลื่อนที่อยู่ระหว่าง 43.25-44.50 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาในตลาดโลกปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 4,500 ริงกิตมาเลเซียต่อตัน หรือต่ำกว่า 35 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวม Export Tax 10%) ลดลงจราว 7-8%
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/67 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากดีมานด์การใช้น้ำมันปาล์มในประเทศที่ยังคงเติบโต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยประเมินว่า ในปี 2567 การบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศ และความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จะขยายตัวเฉลี่ยระดับ 6-7% ผลักดันให้รายได้รวมในปี 2567 เติบโต 10-15% ตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน ปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการกว่า 21,747.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,051.9 ล้านบาท หรือ 16.3% และมีกำไรสุทธิ 400.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 214.5 ล้านบาท และสูงกว่ากำไรรวมทั้งปี 2566 ที่อยู่ในระดับ 310.73 ล้านบาท
*************************
นายพรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจรที่มีความพร้อมการจัดการระบบซัพพลายเชน เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปรับตัวลดลง แต่ในส่วนของในประเทศไทยราคายังคงที่ เนื่องจากปัจจุบัน Stock ภายในไทยต่ำ รวมทั้งกับวิกฤตการณ์น้ำท่วม จึงทำให้ราคาน้ำมันปาล์ม (CPO) ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันปาล์ม (CPO) ในตลาดโลก
"ราคาน้ำมันปาล์มดิบในไทยยังไม่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของราคาตลาดโลกมากนัก เนื่องจากผลผลิตปาล์มสดยังคงลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นไตรมาสที่ 4/67 โดยคาดการณ์ ณ เดือนธันวาคม อยู่ที่ 1 ล้านตัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนราว 2% และลดลงจากช่วงเดียวกันในปี 2566 ที่ราว 8%"
ทั้งนี้จากการที่ฝนตกหนักในบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมัน ประกอบกับบางพื้นที่มีน้ำท่วมขังไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลปาล์มสดได้ อาจส่งผลให้ผลผลิตปาล์มสดที่ออกสู่ตลาดมีแนวโน้มต่ำกว่าคาด
ขณะที่ความต้องการน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศ ณ เดือนธันวาคม ยังคงอยู่ในระดับสูงราว 200,000 ตัน ทั้งจากการอุปโภคในภาคพลังงานและการบริโภคในอุตสาหกรรมอาหารและอื่นๆ ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงคลังต่ำกว่า 190,000 ตันแล้ว โดยระดับราคาผลปาล์มสดภายในประเทศเคลื่อนที่อยู่ระหว่าง 7.30-8.60 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับน้ำมันปาล์มดิบระดับราคาภายในประเทศเคลื่อนที่อยู่ระหว่าง 43.25-44.50 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาในตลาดโลกปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 4,500 ริงกิตมาเลเซียต่อตัน หรือต่ำกว่า 35 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวม Export Tax 10%) ลดลงจราว 7-8%
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/67 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากดีมานด์การใช้น้ำมันปาล์มในประเทศที่ยังคงเติบโต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยประเมินว่า ในปี 2567 การบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศ และความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จะขยายตัวเฉลี่ยระดับ 6-7% ผลักดันให้รายได้รวมในปี 2567 เติบโต 10-15% ตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน ปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการกว่า 21,747.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,051.9 ล้านบาท หรือ 16.3% และมีกำไรสุทธิ 400.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 214.5 ล้านบาท และสูงกว่ากำไรรวมทั้งปี 2566 ที่อยู่ในระดับ 310.73 ล้านบาท
*************************
บทความที่เกี่ยวข้อง
PTG จับมือ "เอส63 โปรเจค" พร้อมหน่วยงานภาครัฐและกลุ่มพันธมิตร ประกาศจัดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการใหญ่ระดับประเทศ "PT MAXNITRON RACING SERIES 2025" อย่างยิ่งใหญ่ ณ สนาม PT SONGKHLA GRANDPRIX 2025 จังหวัดสงขลา
27 พ.ค. 2025
MEDEZE ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์เปิดตัวโครงการ ESG ภายใต้แนวคิด "ก้าวแรกสู่ความยั่งยืนที่จับต้องได้ ในระบบบริการสุขภาพแห่งอนาคต" พัฒนาองค์กรควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล มุ่งสู่การเป็นองค์กรสุขภาพที่ยั่งยืนแห่งอนาคต มุ่งมั่นเข้าสู่รายชื่อ "หุ้นยั่งยืน"
27 พ.ค. 2025
COCOCO การันตีผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เน้นกลยุทธ์บริหารต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รับมือกับต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งยังคงรักษาฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ กะทิ น้ำมะพร้าว และอาหารสัตว์เลี้ยง
26 พ.ค. 2025