TQR ตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-10%
อัพเดทล่าสุด: 30 ม.ค. 2025
31 ผู้เข้าชม
TQR เปิดแผนธุรกิจปี 68 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-10% จากปีก่อน เดินหน้าพัฒนาประกันภัยต่อ Alternative และ Traditional รูปแบบใหม่ร่วมกับบริษัทประกันภัยชั้นนำต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทร่วมทุน ทั้งอัลฟ่าเซคฯ และ อาร์สแควร์ฯ เตรียมนำเทคโนโลยี AI มาพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน มั่นใจช่วยหนุนผลงานเติบโตอย่างมั่นคง
นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจปี 2568 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-10% จากปีก่อน โดยธุรกิจประกันภัยต่อ Traditional และ Alternative ยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง TQR มีการพัฒนานวัตกรรมและบริการใหม่ๆ ร่วมกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงและรับมือกับความเสี่ยงอุบัติใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
"ในปี 2568ประเมินว่า ผู้บริโภคมีความต้องการในการทำประกันภัยเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จากความเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติ และการระบาดของโรคอุบัติใหม่ ประกอบกับบริษัทได้วางแผนนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ร่วมกับบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้มากขึ้น ทั้งประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับ ESG โดยเฉพาะในด้านพลังงานหมุนเวียน เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และรถยนต์ไฟฟ้า (EV), ประกันภัยต่อสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล, ประกันภัยไซเบอร์ (Cyber), ประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร, ประกันภัยต่อการก่อการร้ายและภัยทางการเมือง, ประกันภัยที่อยู่อาศัย ซึ่งธุรกิจประกันภัยต่อจะมีบทบาทสำคัญในการกระจายความเสี่ยงให้กับบริษัทประกันภัย ซึ่งจะช่วยผลักดันผลงาน TQR ให้เติบโตมั่นคงและยั่งยืน นายชนะพันธุ์ กล่าว
ด้านนางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQR กล่าวว่า สำหรับบริษัทร่วมทุนทั้ง 2 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด โดย TQR ถือหุ้นในสัดส่วน 30% เพื่อประกอบธุรกิจประกันภัยไซเบอร์ มีการพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการให้เป็นระบบอัตโนมัติ (Automatically) และนำเทคโนโลยี AI มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้า อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังได้เริ่มขยายธุรกิจในด้านการให้คำปรึกษาและบริการ DPO Outsourcing ไปในกลุ่มอุตสาหกรรมประกันภัยที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจการเงิน การธนาคาร และธุรกิจประกันภัย
ส่วนของธุรกิจให้บริการ (Service) ของบริษัทร่วมทุน บริษัท อาร์สแควร์ จำกัด ในปีนี้ มุ่งเน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและการปรับปรุงคุณภาพของแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการลูกค้า โดยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในด้าน Face Recognition ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วจำนวน 4 ราย และมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าและเครือข่ายไปในอีกหลายอุตสาหกรรม ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ในรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&A) ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท
************************
นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจปี 2568 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-10% จากปีก่อน โดยธุรกิจประกันภัยต่อ Traditional และ Alternative ยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง TQR มีการพัฒนานวัตกรรมและบริการใหม่ๆ ร่วมกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงและรับมือกับความเสี่ยงอุบัติใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
"ในปี 2568ประเมินว่า ผู้บริโภคมีความต้องการในการทำประกันภัยเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จากความเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติ และการระบาดของโรคอุบัติใหม่ ประกอบกับบริษัทได้วางแผนนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ร่วมกับบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้มากขึ้น ทั้งประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับ ESG โดยเฉพาะในด้านพลังงานหมุนเวียน เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และรถยนต์ไฟฟ้า (EV), ประกันภัยต่อสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล, ประกันภัยไซเบอร์ (Cyber), ประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร, ประกันภัยต่อการก่อการร้ายและภัยทางการเมือง, ประกันภัยที่อยู่อาศัย ซึ่งธุรกิจประกันภัยต่อจะมีบทบาทสำคัญในการกระจายความเสี่ยงให้กับบริษัทประกันภัย ซึ่งจะช่วยผลักดันผลงาน TQR ให้เติบโตมั่นคงและยั่งยืน นายชนะพันธุ์ กล่าว
ด้านนางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQR กล่าวว่า สำหรับบริษัทร่วมทุนทั้ง 2 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด โดย TQR ถือหุ้นในสัดส่วน 30% เพื่อประกอบธุรกิจประกันภัยไซเบอร์ มีการพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการให้เป็นระบบอัตโนมัติ (Automatically) และนำเทคโนโลยี AI มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้า อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังได้เริ่มขยายธุรกิจในด้านการให้คำปรึกษาและบริการ DPO Outsourcing ไปในกลุ่มอุตสาหกรรมประกันภัยที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจการเงิน การธนาคาร และธุรกิจประกันภัย
ส่วนของธุรกิจให้บริการ (Service) ของบริษัทร่วมทุน บริษัท อาร์สแควร์ จำกัด ในปีนี้ มุ่งเน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและการปรับปรุงคุณภาพของแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการลูกค้า โดยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในด้าน Face Recognition ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วจำนวน 4 ราย และมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าและเครือข่ายไปในอีกหลายอุตสาหกรรม ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ในรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&A) ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท
************************
บทความที่เกี่ยวข้อง
TSE สุดสตรอง! จ่ายคืนหุ้นกู้ มูลค่า 1,200 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตามกำหนดครบทั้งจำนวน ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุนและผู้ถือหุ้น พร้อมเดินหน้าตามแผนธุรกิจ ลุยขยายลงทุนเพิ่มในธุรกิจโรงไฟฟ้า แตกไลน์สู่ธุรกิจ Healthcare, ความงาม, และ Wellness สร้าง New S-Curve เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
13 ก.พ. 2025
WP เปิดแผนธุรกิจปี 68 ตั้งเป้ารายได้แตะ 18,500 ล้านบาท ยอดขายก๊าซ LPG ที่ระดับ 8.3 แสนตัน สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เผยเตรียมทุ่มเงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพิ่มจุดกระจายสินค้า ขยายการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มอีก 5 เมกะวัตต์ หนุนผลงานเติบโตยั่งยืน
13 ก.พ. 2025
DRT ก้าวผ่านความท้าทายปี 67 ผลักดันรายได้รวมทั้งปีที่ 4,991 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 506.25 ล้านบาท จากการวางกลยุทธ์บริหารช่องทางจำหน่ายหลักทั้ง 4 ช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพ การขยายตลาดและผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมเตรียมเสนอบอร์ดพิจารณาจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังของปี 2567
13 ก.พ. 2025