TACC รุกพัฒนาโปรดักส์ใหม่
อัพเดทล่าสุด: 30 ม.ค. 2025
72 ผู้เข้าชม
TACC ตั้งเป้ารายได้ปี 68 เติบโตอย่างน้อย 10% ขึ้นไป ลุยพัฒนาสินค้าใหม่ ทั้งในกลุ่มธุรกิจ B2B และ B2C สอดรับเทรนด์ผู้บริโภค พร้อมสร้างสินค้าใน Brand ของบริษัท เจาะกลุ่มสินค้า Health & Wellness รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านต้นทุนทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2568 เติบโตอย่างน้อย 10% ขึ้นไป โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าด้านความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพ เพื่อธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านต้นทุน ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเตรียมออกสินค้าใหม่ให้สอดรับเทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งในส่วนของกลุ่มธุรกิจ B2B (7-Eleven) และกลุ่มธุรกิจ B2C (Non 7-Eleven)
สำหรับภาพรวมกลุ่มธุรกิจ B2B (7-Eleven) ในปี 2568 บริษัทมุ่งพัฒนาสินค้า Core Menu และ New Menu รวมทั้งออกสินค้าใหม่ร่วมกันในฐานะ Key Strategic Partner ไม่ว่าเป็นเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ใน All Café
ขณะที่ 7-Eleven ต่างประเทศ ทั้งประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว มีการเติบโตตามการขยายสาขา ซึ่งในส่วนของประเทศกัมพูชามีการร่วมพัฒนาสินค้าเครื่องดื่มใหม่ๆ ในกลุ่ม Counter drink เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคชาวกัมพูชา
"TACC ยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติมร่วมกับ 7-Eleven ที่เป็นพันธมิตรหลักทางธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าแต่ละ Segmentation และกระตุ้นยอดขาย โดยยังคงรักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตรหลักทางธุรกิจให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
ส่วนภาพรวมกลุ่มธุรกิจ B2C (Non 7-Eleven) ในปี 2568 บริษัทพร้อมพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม Café Business และการเพิ่มลูกค้ารายใหม่ให้มากขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างสินค้าที่เป็น Brand ของบริษัท โดยมุ่งเน้นกลุ่ม Health & Wellness Products อย่างต่อเนื่อง และมีแผนการขยายช่องทางการขายใหม่ ขณะที่ธุรกิจไลฟ์สไตล์ในส่วนของคาแรคเตอร์ มีการสร้างการรับรู้ในตัวคาแรคเตอร์ใหม่มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่มาจากการ M&A และ JV เพื่อเป็น New S-Curve สามารถมาต่อยอดกับธุรกิจเดิม และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
***************************
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2568 เติบโตอย่างน้อย 10% ขึ้นไป โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าด้านความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพ เพื่อธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านต้นทุน ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเตรียมออกสินค้าใหม่ให้สอดรับเทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งในส่วนของกลุ่มธุรกิจ B2B (7-Eleven) และกลุ่มธุรกิจ B2C (Non 7-Eleven)
สำหรับภาพรวมกลุ่มธุรกิจ B2B (7-Eleven) ในปี 2568 บริษัทมุ่งพัฒนาสินค้า Core Menu และ New Menu รวมทั้งออกสินค้าใหม่ร่วมกันในฐานะ Key Strategic Partner ไม่ว่าเป็นเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ใน All Café
ขณะที่ 7-Eleven ต่างประเทศ ทั้งประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว มีการเติบโตตามการขยายสาขา ซึ่งในส่วนของประเทศกัมพูชามีการร่วมพัฒนาสินค้าเครื่องดื่มใหม่ๆ ในกลุ่ม Counter drink เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคชาวกัมพูชา
"TACC ยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติมร่วมกับ 7-Eleven ที่เป็นพันธมิตรหลักทางธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าแต่ละ Segmentation และกระตุ้นยอดขาย โดยยังคงรักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตรหลักทางธุรกิจให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
ส่วนภาพรวมกลุ่มธุรกิจ B2C (Non 7-Eleven) ในปี 2568 บริษัทพร้อมพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม Café Business และการเพิ่มลูกค้ารายใหม่ให้มากขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างสินค้าที่เป็น Brand ของบริษัท โดยมุ่งเน้นกลุ่ม Health & Wellness Products อย่างต่อเนื่อง และมีแผนการขยายช่องทางการขายใหม่ ขณะที่ธุรกิจไลฟ์สไตล์ในส่วนของคาแรคเตอร์ มีการสร้างการรับรู้ในตัวคาแรคเตอร์ใหม่มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่มาจากการ M&A และ JV เพื่อเป็น New S-Curve สามารถมาต่อยอดกับธุรกิจเดิม และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
***************************
บทความที่เกี่ยวข้อง
ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้น ณ ห้วงเวลานี้ อาจพูดได้เต็มปากว่า สถานการณ์ปัจจุบันล้วนเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ เพราะในตลาดหุ้น มีหุ้นให้เลือกลงทุนมากมาย และใช่ว่าหุ้นทุกตัวจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งแน่นอนว่า จะมีหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวให้สามารถเลือกลงทุนได้
2 ก.ค. 2025
EA ประกาศแผนการปรับปรับเลื่อนกำหนดชำระหุ้นกู้ จากเดิมที่เคยเสนอเลื่อน 7 ปี เหลือเพียง 5 ปี พร้อมกำหนดชำระเงินต้นคืน โดยสิทธิประโยชน์ด้านดอกเบี้ยและเงื่อนไขอื่นยังคงเดิม ระบุเป็นการแสดงถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหา พร้อมเตรียมนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ครั้งหน้าในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้
1 ก.ค. 2025
DOD เผยอุตสาหกรรมกลุ่มธุรกิจเสริมอาหารครึ่งปีหลังยังคงขยายตัวตามเทรนด์คนรักสุขภาพ มั่นใจรายได้จากการผลิตผลิตภัณฑ์ ในฐานะผู้รับจ้างผลิต รวมทั้งยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Auswelllife ส่งผลตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปีแตะ 700-800 ล้านบาท พร้อมตอกย้ำภายในปีนี้เล็งจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น
1 ก.ค. 2025