SNNP ปรับเพิ่มวงเงินซื้อหุ้นคืน
อัพเดทล่าสุด: 24 ก.พ. 2025
97 ผู้เข้าชม
SNNP โชว์ผลงานปี 67 กำไรสุทธิ 651.2 ล้านบาท รายได้รวม 5,983.4 ล้านบาท พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดอีกในอัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 7 พฤษภาคมนี้ รวมทั้งปีจ่ายปันผล 0.60 บาทต่อหุ้น ทั้งปรับเพิ่มวงเงินโครงการซื้อหุ้นคืนในวงเงินไม่เกิน 750 ล้านบาท ซื้อคืนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น ขณะที่แนวโน้มรายได้ปี 68 มั่นใจเติบโตจากปีก่อน จากการออกสินค้าใหม่กลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเขี้ยวอย่างต่อเนื่อง รับปัจจัยบวกกระตุ้นการใช้จ่ายคึกคัก
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2567 มีกำไรสุทธิ 651.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.4 ล้านบาท หรือ 2.4% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 635.8 ล้านบาท และมีรายได้รวมปี 2567 อยู่ที่ 5,983.4 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนมาจากยอดขายของทุกผลิตภัณฑ์ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก และการทยอยออกสินค้าใหม่วางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริหารจัดการต้นทุนอย่างเป็นระบบ มีการนำการบริหารจัดการจัดซื้อจัดจ้าง การพัฒนากระบวนการผลิตจนถึงสินค้าส่งถึงมือลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการในส่วนของสำนักงาน ด้วยการบริหารจัดการทั้งหมดนี้ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิต่อยอดขายเพิ่มขึ้น และนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดเพิ่มในอัตรา 0.35 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคม และกำหนดจ่ายวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วหุ้นละ 0.25 บาท รวมทั้งปีเท่ากับ 0.60 บาท่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2567
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังมีมติปรับเพิ่มวงเงินโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) สูงสุดวงเงินไม่เกิน 750 ล้านบาท จากเดิม 640 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น จากเดิม 40 ล้านหุ้น ซึ่งจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็นอัตรา 6.25% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ซึ่งการเพิ่มวงเงินการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมั่นใจในธุรกิจและการเติบโตที่ที่ดีในอนาคต
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2568 คาดว่ารายได้จะเติบโตได้ต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆ กลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ที่จะกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนในประเทศ โดยนำใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ในวงเงิน 50,000 บาท ช่วงต้นปี 2568 จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกโดยเฉพาะการขายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด จะทำให้ยอดขายจากช่องทางดังกล่าวขยายตัวมากขึ้น และในส่วนของแผนระยะยาวบริษัทฯ วางกลยุทธ์ขยายตลาดในต่างประเทศ ทั้งรูปแบบการส่งสินค้าไปขาย และการร่วมการทำตลาด รวมถึงการแต่งตั้งตัวแทนจัดจำหน่าย เพื่อสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว
**********************
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2567 มีกำไรสุทธิ 651.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.4 ล้านบาท หรือ 2.4% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 635.8 ล้านบาท และมีรายได้รวมปี 2567 อยู่ที่ 5,983.4 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนมาจากยอดขายของทุกผลิตภัณฑ์ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก และการทยอยออกสินค้าใหม่วางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริหารจัดการต้นทุนอย่างเป็นระบบ มีการนำการบริหารจัดการจัดซื้อจัดจ้าง การพัฒนากระบวนการผลิตจนถึงสินค้าส่งถึงมือลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการในส่วนของสำนักงาน ด้วยการบริหารจัดการทั้งหมดนี้ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิต่อยอดขายเพิ่มขึ้น และนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดเพิ่มในอัตรา 0.35 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคม และกำหนดจ่ายวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วหุ้นละ 0.25 บาท รวมทั้งปีเท่ากับ 0.60 บาท่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2567
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังมีมติปรับเพิ่มวงเงินโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) สูงสุดวงเงินไม่เกิน 750 ล้านบาท จากเดิม 640 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น จากเดิม 40 ล้านหุ้น ซึ่งจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็นอัตรา 6.25% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ซึ่งการเพิ่มวงเงินการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมั่นใจในธุรกิจและการเติบโตที่ที่ดีในอนาคต
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2568 คาดว่ารายได้จะเติบโตได้ต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆ กลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ที่จะกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนในประเทศ โดยนำใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ในวงเงิน 50,000 บาท ช่วงต้นปี 2568 จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกโดยเฉพาะการขายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด จะทำให้ยอดขายจากช่องทางดังกล่าวขยายตัวมากขึ้น และในส่วนของแผนระยะยาวบริษัทฯ วางกลยุทธ์ขยายตลาดในต่างประเทศ ทั้งรูปแบบการส่งสินค้าไปขาย และการร่วมการทำตลาด รวมถึงการแต่งตั้งตัวแทนจัดจำหน่าย เพื่อสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว
**********************
บทความที่เกี่ยวข้อง
Maxbit พร้อมผลักดันนวัตกรรมการลงทุนคริปโตฯ ไปอีกขั้น ผ่านการเปิดตัวระบบ "Grid Trading" เป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย ระบุเป็นระบบที่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ผู้ลงทุนสามารถกำหนดช่วงราคาการเทรดเองได้
8 ก.ค. 2025
YLG เปิดปัจจัยหนุนราคาทองคำ ระบุยังมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คาดปีนี้ทองคำยังมีลุ้นที่ 3,500 ดอลลาร์ หากผ่านได้มีโอกาสพุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดที่ 3,650 ดอลลาร์ หลังครึ่งปีแรกราคาพุ่งแล้ว 25% พร้อมเปิดสถิติย้อนหลัง 20 ปี พบผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึงปีละ 9.36%
8 ก.ค. 2025
GBS ประเมินภาพรวมหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงปรับตัวลงต่อ หลังผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีไทยในอัตรา 36% กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนเรื่องขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีการค้าโลก แนะกลยุทธ์ลหลบภัยช่วงตลาดหุ้นขาลง ชู ADVANC, PR9, TISCO, BGRIM เด่น
8 ก.ค. 2025