แชร์

PTG สุดแกร่งโชว์กำไรทะลุ 1 พันล.

อัพเดทล่าสุด: 26 ก.พ. 2025
130 ผู้เข้าชม

PTG ประกาศผลงานปี 2567 กำไรสุทธิพุ่งแตะ 1,042 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 225,813 ล้านบาท จากทุกธุรกิจในเครือที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ปริมาณการขายน้ำมันผ่านทุกช่องทางทุบสถิติสูงสุดใหม่อยู่ที่ 6,708 ล้านลิตร สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เติบโตถึง 12.9% สูงกว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมมากกว่า 10 เท่า ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 21.9% ขณะที่ธุรกิจ Non-Oil เติบโตอย่างโดดเด่น จากกาแฟพันธุ์ไทยที่ขยายสาขาได้เกินเป้า พร้อมตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้มีสาขากว่า 2,000 สาขา  ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเพิ่มอีกอัตราหุ้นละ 0.25 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ พร้อมประเมินแนวโน้มธุรกิจปี 2568 ยังสดใสจากธุรกิจ Non-Oil ชูกาแฟพันธุ์ไทยยังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญจากแผนการขยายสาขา และยอดสมาชิกบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus ที่เพิ่มขึ้น พร้อมตั้งเป้ายอดขายน้ำมันปีนี้โต 5-10%

               นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2567 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิจำนวน 1,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% จากปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานอยู่ที่ 0.61 บาทต่อหุ้น ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 27,002 ล้านบาท เป็น 225,813 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Oil ที่ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางที่ยังคงสร้างสถิติยอดขายสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่องเป็น 6,708 ล้านลิตร เติบโต 12.5% คิดเป็นการจำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการ PT จำนวน 6,548 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 12.9% จากปีก่อน สูงกว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมมากกว่า 10 เท่า

               ทั้งนี้ เนื่องจากภาพรวมปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศผ่านสถานีบริการมีการเติบโตเพียง 0.4% จากปีก่อน ส่งผลทำให้บริษัทครองส่วนแบ่งการตลาดผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 21.9% เทียบกับปีก่อนที่ 19.5% โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจากการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ผ่านกลุ่มลูกค้าสมาชิก Max Card และ Max Card Plus (กลุ่มลูกค้าสมาชิก) เป็นหลัก รวมถึงบริษัทมีการขยายสถานีบริการน้ำมัน PT เพิ่มขึ้น 1.3% จากปีก่อนเป็น 2,229 สถานี


               นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการขายและการให้บริการธุรกิจ Non-Oil เท่ากับ 17,958 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.2% จากปีก่อน โดยธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นที่ 82.6% จากปีก่อนเป็น 2,266 ล้านบาท การเติบโตดังกล่าวมีปัจจัยมาจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น 465 สาขา จาก 882 สาขา เป็น 1,347 สาขา เพิ่มขึ้น 52.7% หรือคิดเป็นการขยายเฉลี่ย 1.3 สาขาต่อวัน รวมถึงการใช้บริการอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าสมาชิกเป็นหลัก ผ่านการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดและแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง

               ขณะที่กำไรขั้นต้นของบริษัทปี 2567 มีจำนวน 14,770 ล้านบาท เติบโต 14.3% จากปีก่อน การเพิ่มขึ้นหลักๆ มาจากธุรกิจ Non-Oil ที่เติบโต 34.5% เป็น 3,688 ล้านบาท เป็นผลจากธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยมีการเติบโตของกำไรขั้นต้น 80.2% เป็น 1,207 ล้านบาท ในส่วนของธุรกิจ Oil มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 902 ล้านบาท หรือ 8.9 % จากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

               จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดปี 2567 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 584,500,000 บาท โดยบริษัทได้ดำเนินการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท ดังนั้น บริษัทจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในครั้งนี้อีกในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ซึ่งการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 25 เมษายน 2568

               สำหรับทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทในปี 2568 ตั้งเป้าหมายการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันธุรกิจ Oil ไว้ที่ 5-10% จากปีก่อน ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการขยายสถานีบริการ การพัฒนาคุณภาพบริการ และการเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าผ่านโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ รวมถึงปัจจัยมหภาคยังมีบทบาทสำคัญต่อแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมัน ซึ่งบริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาเครือข่ายสถานีบริการ PT อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นขยายสาขาในทำเลที่มีศักยภาพ ควบคู่กับการ Renovate สถานีบริการและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การเติบโตของฐานสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 25 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการขยายตัวของยอดจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการ PT โดยตรงจากพฤติกรรมการใช้ซ้ำและสิทธิประโยชน์ที่ออกแบบให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

               พร้อมกันนี้ ยังได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสถานีบริการให้ทันสมัย รองรับทั้งระบบดิจิทัลและการให้บริการที่ครบวงจร เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้เหนือกว่าการเป็นเพียงสถานีเติมน้ำมัน โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสถานีบริการให้ครบ 2,279 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ 2568

               ส่วนธุรกิจ Non-Oil ปี 2568 ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ (ไม่รวม LPG) ที่ 40-50% จากปีก่อน โดยมุ่งเน้นขยาย Touchpoints อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า โดยมีเป้าหมายขยายธุรกิจ Non-Oil เป็น 2,978 สาขา ซึ่งรวมถึงการขยายร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีอยู่กว่า 2,000 สาขา และเพิ่ม Touchpoints อื่นๆ ภายใต้ธุรกิจ Non-Oil เป็น 1,031 สาขา


               ทั้งนี้ กาแฟพันธุ์ไทยยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของธุรกิจ Non-Oil ด้วยการขยายสาขาอย่างมีนัยสำคัญในปี 2568 โดยใช้กลยุทธ์การเลือกทำเลที่มีศักยภาพสูง เพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าเป้าหมาย ฐานข้อมูลสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถกำหนดพื้นที่ขยายสาขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นไปยังทำเลที่มีศักยภาพ โดยการเติบโตของกาแฟพันธุ์ไทยไม่ได้มาจากเพียงการขยายสาขาเท่านั้น แต่ยังได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของ SSSG ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องจากความต้องการของลูกค้าสมาชิกและบุคคลทั่วไปที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคฃ

               นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยาย Autobacs, Max Mart และ Subway ซึ่งเป็น Touchpoints สำคัญที่ช่วยเสริมระบบนิเวศทางธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดย Autobacs จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์ Max Mart ขยายตัว เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคที่เข้าถึงง่าย และ Subway ช่วยเพิ่มทางเลือกด้านอาหารเพื่อสุขภาพให้กับลูกค้าในสถานีบริการน้ำมันและพื้นที่เชิงพาณิชย์

               จากกลยุทธ์ดังกล่าว คาดว่าสัดส่วนกำไรขั้นต้นธุรกิจ Non-Oil จะอยู่ที่ 30-35% ของกำไรขั้นต้นรวมของบริษัท เพิ่มขึ้นจาก 25% ในปี 2567 นอกจากนั้น กำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil ที่สูงขึ้นยังเกิดจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และการพัฒนาแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการใช้บริการซ้ำ

****************************  


บทความที่เกี่ยวข้อง
MEDEZE ย้ำเป้ารายได้โตทะลุ 1 พันล.
MEDEZE ประกาศแผนงานปี 2568 เตรียมสร้างธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดแห่งใหม่ รองรับความต้องการขยายตัว หลังภาครัฐผลักดัน Stem Cell สู่กลุ่มนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ตามความต้องการของตลาด Stem Cell ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ทำ New High ทะลุ 1,000 ล้าน
17 มี.ค. 2025
SNPS เคาะจ่ายปันผล 0.13 บ./หุ้น
SNPS เตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดปี 2567 ในอัตรา 0.13 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 21 มีนาคมนี้ หลังทำผลงานโตทะลุเป้า พร้อมพิจารณาอนุมัติแต่งตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ครบกําหนดออกจากตําแหน่งตามวาระ
13 มี.ค. 2025
GBX ตั้งเป้า AUM ทะลุหมื่นล้าน
GBX เปิดเกมรุกปี 2568 ตั้งเป้าการเติบโตทางธุรกิจ 10% เล็งขยายธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง เพิ่ม AUM แตะ 1 หมื่นล้านบาท พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้ง DRx และ Structured Note รองรับนักลงทุนทุกกลุ่ม รวมถึงศึกษาแนวทางพัฒนา Gold Link Note เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนในอนาคต
13 มี.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy