BVG โชว์ผลงาน Q1/68 ท็อปฟอร์ม
อัพเดทล่าสุด: 8 พ.ค. 2025
76 ผู้เข้าชม
BVG โชว์ผลงานงวดไตรมาส 1/68 ท็อปฟอร์ม กวาดรายได้จากบริการเพิ่ม 18% แตะ 152 ล้านบาท กำไรสุทธิโต 9% ทะลุ 14 ล้านบาท ตามการเติบโตเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ อานิสงค์การบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS 17 หนุนงานกลุ่มธุรกิจ BVA-BVTECH โตโดดเด่น พร้อมส่งซิกเตรียมสยายปีกยึดหัวหาดงานที่ปรึกษาคณิตศาสตร์ประกันภัยกลุ่มประเทศ CLMV ลุยงานด้าน AI ดันรายได้เติบโตต่อเนื่อง 2 หลักต่อปีตามเป้า
นางนวรัตน์ วงศ์ฐิติรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BVG หนึ่งในผู้นำในการดำเนินธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์ม และแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับประกันภัยรถยนต์ (ระบบ EMCS) ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/68 บริษัทมีกำไรสุทธิ 14.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรายได้รวมจากการบริการเพิ่มขึ้น 18% ที่ 152 ล้านบาท ตามการเติบโตที่ดีของเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ โดยกลุ่มธุรกิจการให้บริการแพลตฟอร์ม และแอปพลิเคชั่นสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับประกันภัยรถยนต์ (ระบบ EMCS) รายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 6% ที่ 63 ล้านบาท จากบริการจัดการสินไหมทดแทนประกันภัยรถยนต์ (Claim Settlement) ที่เติบโตดีต่อเนื่อง
ขณะที่กลุ่มธุรกิจบริษัทลูก ทั้งธุรกิจให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย (BVA), ธุรกิจให้บริการนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ (BVTECH) และธุรกิจให้บริการ คำแนะนำและวางแผนเข้าถึงการใช้บริการด้านสุขภาพ (BVH) มีรายได้เติบโตโดดเด่น 225% อยู่ที่ราว 32 ล้านบาท ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้กลุ่มธุรกิจ BVA และ BVTECH ผลจากการบังคับใช้มาตรฐานการายงานทางการเงินระหว่างประเทศ ฉบับที่ 17 เรื่องสัญญาประกันภัย (IFRS 17) นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นสำคัญ โดยบริษัทได้ส่งมอบงานวางระบบ และรับรู้รายได้งานที่ปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยจากลูกค้ารายใหญ่ที่ได้ลงนามสัญญาไปช่วงกลางปี 2567 เข้ามาเต็มไตรมาส และจะทยอยรับรู้เข้ามาต่อเนื่องทุกไตรมาสตลอดอายุสัญญา 6 ปี มูลค่าโครงการรวมราว 60 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มธุรกิจให้บริการบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ ด้านการรักษาพยาบาลและสินไหมทดแทน รวมถึงการให้คำปรึกษาแนะนำที่เกี่ยวข้อง ผ่านแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน (BVTPA) มีรายได้กว่า 57 ล้านบาท หลังมีการรับรู้รายได้จากลูกค้ารายใหญ่ที่ได้ลงนามสัญญาช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง ส่งให้ต้นทุนบริหารและค่าใช้จ่ายรวมงวดไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 136 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราที่สอดคล้องกับการเติบโตของรายได้รวม ซึ่งสาเหตุหลักมาจากต้นทุนการให้บริการ IFRS 17
ด้านแผนงานช่วงไตรมาส 2/68 ต่อเนื่องช่วงครึ่งหลังของปี 2568 บริษัทเตรียมแผนเดินหน้าขยายฐานงานบริการนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ และบริการให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย เข้าไปยังกลุ่มประเทศ CLMV รวมถึงประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งจะเริ่มทยอยประกาศใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS 17 นับตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป รวมทั้งเดินหน้าขยายงานด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ AI Inspect สำหรับช่วยตรวจสอบสภาพรถยนต์ก่อนรับประกันแบบเรียลไทม์ ซึ่งได้นำเสนอให้กับบริษัทประกันภัยแล้วรวม 7 บริษัท ซึ่งรวมถึงบริษัทประกันภัยรายใหญ่ในกลุ่ม Top 5 จำนวน 3 บริษัท คาดว่าจะได้งานใหม่เข้ามาต่อยอดการเติบโตภายในช่วงไตรมาส 2/2568 ดังนั้น จึงยังคงมั่นใจภาพรวมทั้งปี 2568 รายได้รวมเติบโตต่อเนื่อง 2 หลักตามเป้าหมายที่วางไว้
************************
นางนวรัตน์ วงศ์ฐิติรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BVG หนึ่งในผู้นำในการดำเนินธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์ม และแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับประกันภัยรถยนต์ (ระบบ EMCS) ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/68 บริษัทมีกำไรสุทธิ 14.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรายได้รวมจากการบริการเพิ่มขึ้น 18% ที่ 152 ล้านบาท ตามการเติบโตที่ดีของเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ โดยกลุ่มธุรกิจการให้บริการแพลตฟอร์ม และแอปพลิเคชั่นสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับประกันภัยรถยนต์ (ระบบ EMCS) รายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 6% ที่ 63 ล้านบาท จากบริการจัดการสินไหมทดแทนประกันภัยรถยนต์ (Claim Settlement) ที่เติบโตดีต่อเนื่อง
ขณะที่กลุ่มธุรกิจบริษัทลูก ทั้งธุรกิจให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย (BVA), ธุรกิจให้บริการนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ (BVTECH) และธุรกิจให้บริการ คำแนะนำและวางแผนเข้าถึงการใช้บริการด้านสุขภาพ (BVH) มีรายได้เติบโตโดดเด่น 225% อยู่ที่ราว 32 ล้านบาท ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้กลุ่มธุรกิจ BVA และ BVTECH ผลจากการบังคับใช้มาตรฐานการายงานทางการเงินระหว่างประเทศ ฉบับที่ 17 เรื่องสัญญาประกันภัย (IFRS 17) นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นสำคัญ โดยบริษัทได้ส่งมอบงานวางระบบ และรับรู้รายได้งานที่ปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยจากลูกค้ารายใหญ่ที่ได้ลงนามสัญญาไปช่วงกลางปี 2567 เข้ามาเต็มไตรมาส และจะทยอยรับรู้เข้ามาต่อเนื่องทุกไตรมาสตลอดอายุสัญญา 6 ปี มูลค่าโครงการรวมราว 60 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มธุรกิจให้บริการบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ ด้านการรักษาพยาบาลและสินไหมทดแทน รวมถึงการให้คำปรึกษาแนะนำที่เกี่ยวข้อง ผ่านแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน (BVTPA) มีรายได้กว่า 57 ล้านบาท หลังมีการรับรู้รายได้จากลูกค้ารายใหญ่ที่ได้ลงนามสัญญาช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง ส่งให้ต้นทุนบริหารและค่าใช้จ่ายรวมงวดไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 136 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราที่สอดคล้องกับการเติบโตของรายได้รวม ซึ่งสาเหตุหลักมาจากต้นทุนการให้บริการ IFRS 17
ด้านแผนงานช่วงไตรมาส 2/68 ต่อเนื่องช่วงครึ่งหลังของปี 2568 บริษัทเตรียมแผนเดินหน้าขยายฐานงานบริการนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ และบริการให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย เข้าไปยังกลุ่มประเทศ CLMV รวมถึงประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งจะเริ่มทยอยประกาศใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS 17 นับตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป รวมทั้งเดินหน้าขยายงานด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ AI Inspect สำหรับช่วยตรวจสอบสภาพรถยนต์ก่อนรับประกันแบบเรียลไทม์ ซึ่งได้นำเสนอให้กับบริษัทประกันภัยแล้วรวม 7 บริษัท ซึ่งรวมถึงบริษัทประกันภัยรายใหญ่ในกลุ่ม Top 5 จำนวน 3 บริษัท คาดว่าจะได้งานใหม่เข้ามาต่อยอดการเติบโตภายในช่วงไตรมาส 2/2568 ดังนั้น จึงยังคงมั่นใจภาพรวมทั้งปี 2568 รายได้รวมเติบโตต่อเนื่อง 2 หลักตามเป้าหมายที่วางไว้
************************
บทความที่เกี่ยวข้อง
GBS มองภาษีทรัมป์ 36% สร้างแรงกดวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการส่งออก ลุ้นบทสรุปการเจรจาเรื่องภาษีก่อนครบกำหนดบังคับใช้ แนะหันมาลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic Plays เพื่อลดความผันผวน พร้อมให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่ม Healthcare Tourism รับโอกาสไทยยังเติบโตจากธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
15 ก.ค. 2025
CIVIL มุ่งรักษาเสถียรภาพธุรกิจท่ามกลางภาวะผันผวน เผยทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังเตรียมส่งมอบ 3 โครงการ พร้อมจ่อเซ็นสัญญาใหม่ 4 โครงการ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท รุกประมูลงานต่อเนื่อง ตั้งเป้าเติม Backlog ทั้งปีที่ 6,000 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์ FAST เสริมความแข็งแกร่งทุกมิติ
14 ก.ค. 2025
MEDEZE ร่วมเจาะลึกอนาคตการแพทย์ระดับโลก ให้ข้อมูลนักวิเคราะห์และนักลงทุนจาก CGSI และ KKPFG ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมกิจการ ฉายภาพรวมธุรกิจ เข้ารับฟังเรื่องการจัดเก็บเซลล์ภูมิคุ้มกัน NK Cell การจัดเก็บสเต็มเซลล์ ทั้งได้เข้าเยี่ยมชมแล็บที่ได้รับรองมาตรฐาน
14 ก.ค. 2025