MPJ เปิดเกมรุกสู้ศึก TRADE WAR
อัพเดทล่าสุด: 8 พ.ค. 2025
49 ผู้เข้าชม
MPJ เปิดเกมสู้ศึกสงครามการค้า เดินหน้าปรับกลยุทธต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ พร้อมขยายช่องทางการขนส่ง เพิ่มสัดส่วนทางการค้าในกลุ่มอาเซียนและตะวันออกกลาง บริหารความเสี่ยงเชิงรุก ลดการพึ่งพาตลาดเดียว ระบุประเทศไทยมีศักยภาพ สามารถขึ้นแท่นเป็น HUB การค้าระหว่างประเทศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้
นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ ผู้นำโลจิสติกส์แบบครบวงจรและผู้นำด้านบริหารลานตู้คอนเทนเนอร์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความขัดแย้งทางการค้าของสหรัฐฯ และจีน ทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในด้านห่วงโซ่อุปทานโลกมีการปรับเปลี่ยนท่ามกลางวิกฤติสงครามการค้า ทั้งต้นทุน การขนส่ง และเส้นทางใหม่ ส่งผลให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มที่จะได้รับโอกาสเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งใหม่ จากการนำเทคโนโลยีสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน ซึ่งถือว่าเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่เข้ามาช่วยรับมือสงครามการค้าและสร้างการเติบโตในอนาคต
จากปัจจัยกล่าว บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการกระจายตลาด และขยายเส้นทางการค้า เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งเพียงตลาดเดียว โดยเบื้องต้นได้ปรับกลยุทธ์ด้านบริหารจัดการต้นทุน และขยายเครือข่ายโลจิสติกส์ในภูมิภาคเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และสามารถขึ้นมาเป็นศูนย์กลาง (Hub) ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ เพราะมีชายแดนที่เป็นจุดเชื่อมต่อการค้าระหว่างประเทศ และท่าเรือน้ำลึก โดยสามารถทำเรื่อง import & export หรือ ทำ In-transit shipment ได้ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ในภาคส่วน international logistics ได้อย่างชัดเจน รวมถึงยังเป็นศูนย์กลางการผลิตอุตสาหกรรมอีกหลากหลาย อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ อาหาร และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยแผนกลยุทธ์การขยายไปในต่างประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีประเทศสหรัฐฯ เป็นประเทศเป้าหมาย แต่ด้วยสถานการณ์สงครามการค้า ทำให้บริษัทยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการปรับกลยุทธ์การขยายช่องทางการขนส่งในประเทศและข้ามแดน โดยเพิ่มสัดส่วนทางการค้าในกลุ่มอาเซียนและตะวันออกกลาง เพื่อบริหารความเสี่ยงเชิงรุกควบคู่ไปด้วย
ขณะเดียวกัน จากข้อมูลอ้างอิงศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ประเมินว่า ธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้น จากแรงกดดันของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มาพร้อมกับการกีดกันทางการค้าที่รุนแรงขึ้น และประเมินว่า ในปี 2568 รายได้ของผู้ให้บริการโลจิสติกส์จะเติบโตอยู่ที่ 3.40 % จากปีก่อน และมีมูลค่าอยู่ที่ 9 แสนล้านบาท รวมทั้งยังมี 2 เทรนด์ธุรกิจโลจิสติกส์ที่กำลังเติบโตในปีนี้ ได้แก่ เทรนด์ Green logistics ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ และทำให้ในช่วงปีที่ผ่านมา ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในไทยได้เริ่มให้บริการ Green logistics มากขึ้น และเทรนด์ Logistics technology (Log Tech) ที่เข้ามาช่วยยกระดับการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ให้สะดวกรวดเร็วขึ้น พร้อมทั้งลดต้นทุนบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
***********************
นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ ผู้นำโลจิสติกส์แบบครบวงจรและผู้นำด้านบริหารลานตู้คอนเทนเนอร์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความขัดแย้งทางการค้าของสหรัฐฯ และจีน ทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในด้านห่วงโซ่อุปทานโลกมีการปรับเปลี่ยนท่ามกลางวิกฤติสงครามการค้า ทั้งต้นทุน การขนส่ง และเส้นทางใหม่ ส่งผลให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มที่จะได้รับโอกาสเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งใหม่ จากการนำเทคโนโลยีสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน ซึ่งถือว่าเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่เข้ามาช่วยรับมือสงครามการค้าและสร้างการเติบโตในอนาคต
จากปัจจัยกล่าว บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการกระจายตลาด และขยายเส้นทางการค้า เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งเพียงตลาดเดียว โดยเบื้องต้นได้ปรับกลยุทธ์ด้านบริหารจัดการต้นทุน และขยายเครือข่ายโลจิสติกส์ในภูมิภาคเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และสามารถขึ้นมาเป็นศูนย์กลาง (Hub) ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ เพราะมีชายแดนที่เป็นจุดเชื่อมต่อการค้าระหว่างประเทศ และท่าเรือน้ำลึก โดยสามารถทำเรื่อง import & export หรือ ทำ In-transit shipment ได้ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ในภาคส่วน international logistics ได้อย่างชัดเจน รวมถึงยังเป็นศูนย์กลางการผลิตอุตสาหกรรมอีกหลากหลาย อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ อาหาร และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยแผนกลยุทธ์การขยายไปในต่างประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีประเทศสหรัฐฯ เป็นประเทศเป้าหมาย แต่ด้วยสถานการณ์สงครามการค้า ทำให้บริษัทยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการปรับกลยุทธ์การขยายช่องทางการขนส่งในประเทศและข้ามแดน โดยเพิ่มสัดส่วนทางการค้าในกลุ่มอาเซียนและตะวันออกกลาง เพื่อบริหารความเสี่ยงเชิงรุกควบคู่ไปด้วย
ขณะเดียวกัน จากข้อมูลอ้างอิงศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ประเมินว่า ธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้น จากแรงกดดันของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มาพร้อมกับการกีดกันทางการค้าที่รุนแรงขึ้น และประเมินว่า ในปี 2568 รายได้ของผู้ให้บริการโลจิสติกส์จะเติบโตอยู่ที่ 3.40 % จากปีก่อน และมีมูลค่าอยู่ที่ 9 แสนล้านบาท รวมทั้งยังมี 2 เทรนด์ธุรกิจโลจิสติกส์ที่กำลังเติบโตในปีนี้ ได้แก่ เทรนด์ Green logistics ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ และทำให้ในช่วงปีที่ผ่านมา ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในไทยได้เริ่มให้บริการ Green logistics มากขึ้น และเทรนด์ Logistics technology (Log Tech) ที่เข้ามาช่วยยกระดับการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ให้สะดวกรวดเร็วขึ้น พร้อมทั้งลดต้นทุนบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
***********************
บทความที่เกี่ยวข้อง
ATLAS ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG ภายใต้เครื่องหมายการค้า "PT" ประกาศพร้อมเดินหน้าเสนอขาย IPO จำนวน 418.42 ล้านหุ้น เข้าจดทะเบียนใน SET คาดส่งหุ้นลงกระดานเทรดได้ภ่ยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ระดมทุนขยายฐานธุรกิจ
20 พ.ค. 2025
SKIN ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามแบรนด์ไทย Skinsista และ Dermie จับมือ APM ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) เดินสายโรดโชว์ นำเสนอข้อมูลธุรกิจ ข้อมูลทางการเงิน ก่อนเสนอขาย IPO เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai
20 พ.ค. 2025
MEDEZE เดินหน้าเสริมทัพ แต่งตั้ง "ปิยวัชร ราชพลสิทธิ์" นั่งรองประธานกรรมการบริษัท ร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสุขภาพสู่ระดับสากล ระบุถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของ MEDEZE ในการเติมเต็มทีมบริหารระดับสูง ให้พร้อมรับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
20 พ.ค. 2025