CFARM ลุยขยายฟาร์มวัวนม
อัพเดทล่าสุด: 14 พ.ค. 2025
27 ผู้เข้าชม
CFARM เปิดแผนธุรกิจปี 2568 มุ่งรักษาฐานลูกค้าเดิม ขยายตลาดส่งออกไก่เนื้อ ชูประสิทธิภาพการเลี้ยงเพิ่มขึ้น รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน คงกำลังการผลิต 15.88 ล้านตัวต่อปี คาดผลการดำเนินงานเติบโตจากการลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพการขาย เดินหน้าลงทุนโครงการฟาร์มวัวนม คาดสร้างรายได้มากกว่าฟาร์มไก่ 2 เท่า จากสามารถรับรู้รายได้แบบรายวัน แตกต่างจากธุรกิจฟาร์มไก่ที่รับรู้ตามรอบเลี้ยง
นายชูรัตน์ จึงธนสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) หรือ CFARM ประกอบธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ ประเภทฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อให้กับคู่สัญญาในรูปแบบเกษตรพันธสัญญาแบบประกันราคา เปิดเผยว่า กลยุทธ์การตลาดในปี 2568 บริษัทยังคงมุ่งเน้นไปที่การทำตลาดในกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน โดยแม้ว่าตลาดไก่จะมีแนวโน้มฟื้นตัว และเติบโตขึ้นในระยะนี้ บริษัทมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ที่มีความเสถียร โดยตลาดทั้งการบริโภคภายในประเทศ และการส่งออก ยังคงมีสัดส่วนที่ค่อนข้างคงที่ จึงมั่นใจว่า กลยุทธ์นี้จะช่วยให้ธุรกิจของบริษัท สามารถรักษาการเติบโต และสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับกำลังการเลี้ยงไก่ในปี 2568 ยังคงอยู่ที่ประมาณ 3.18 ล้านตัวต่อรอบ หรือรวม 15.88 ล้านตัวต่อปี เพื่อรองรับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะกลุ่มส่งออก ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนยอดขายของบริษัท ทั้งนี้ แม้ฐานการผลิตยังเท่าเดิม แต่คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากประสิทธิภาพการเลี้ยงที่สูง โดยมีอัตราการรอดเกินกว่า 96% และน้ำหนักตัวเฉลี่ย 2.8-3 กิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด นอกจากนี้ ไก่ยังบริโภคอาหารน้อยลงเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนลดลง ขณะราคาขายยังคงอยู่ในระดับสูง เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก
ขณะที่อุตสาหกรรมการส่งออกไก่เลี้ยงของไทยในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสความต้องการบริโภคเนื้อไก่ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม โดยประเทศไทยยังคงรักษาจุดแข็งในฐานะหนึ่งในผู้ส่งออกไก่แปรรูปอันดับต้นๆ ของโลก ด้วยมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล สนับสนุนศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกอย่างมั่นคง
ส่วนโครงการฟาร์มวัวนม บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ ด้วยการลงทุนโครงการฟาร์มวัวนมบนพื้นที่กว่า 300 ไร่ในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยล่าสุดในไตรมาส 1/68 ได้ดำเนินการปรับหน้าดินแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงเรือนระบบปิดที่ควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรองรับสภาพอากาศแปรปรวน และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้นม ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนสรุปการนำเข้าสายพันธุ์วัว อุปกรณ์การเลี้ยง และระบบรีดนม คาดว่าจะเริ่มผลิตน้ำนมดิบล็อตแรกจำนวน 1,250 ตัวในไตรมาส 1/69 โดยธุรกิจฟาร์มวัวนมจะสร้างรายได้มากกว่ารายได้ฟาร์มไก่เนื้อถึง 2 เท่า เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้แบบรายวัน แตกต่างจากธุรกิจฟาร์มไก่ที่รับรู้ตามรอบเลี้ยง
ด้านผลประกอบการภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส 1/68 บริษัทมีรายได้จากการเลี้ยงไก่เนื้อตามพันธะมีรายได้จากการขาย 48 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.5 แสนบาท
********************
นายชูรัตน์ จึงธนสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) หรือ CFARM ประกอบธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ ประเภทฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อให้กับคู่สัญญาในรูปแบบเกษตรพันธสัญญาแบบประกันราคา เปิดเผยว่า กลยุทธ์การตลาดในปี 2568 บริษัทยังคงมุ่งเน้นไปที่การทำตลาดในกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน โดยแม้ว่าตลาดไก่จะมีแนวโน้มฟื้นตัว และเติบโตขึ้นในระยะนี้ บริษัทมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ที่มีความเสถียร โดยตลาดทั้งการบริโภคภายในประเทศ และการส่งออก ยังคงมีสัดส่วนที่ค่อนข้างคงที่ จึงมั่นใจว่า กลยุทธ์นี้จะช่วยให้ธุรกิจของบริษัท สามารถรักษาการเติบโต และสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับกำลังการเลี้ยงไก่ในปี 2568 ยังคงอยู่ที่ประมาณ 3.18 ล้านตัวต่อรอบ หรือรวม 15.88 ล้านตัวต่อปี เพื่อรองรับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะกลุ่มส่งออก ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนยอดขายของบริษัท ทั้งนี้ แม้ฐานการผลิตยังเท่าเดิม แต่คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากประสิทธิภาพการเลี้ยงที่สูง โดยมีอัตราการรอดเกินกว่า 96% และน้ำหนักตัวเฉลี่ย 2.8-3 กิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด นอกจากนี้ ไก่ยังบริโภคอาหารน้อยลงเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนลดลง ขณะราคาขายยังคงอยู่ในระดับสูง เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก
ขณะที่อุตสาหกรรมการส่งออกไก่เลี้ยงของไทยในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสความต้องการบริโภคเนื้อไก่ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม โดยประเทศไทยยังคงรักษาจุดแข็งในฐานะหนึ่งในผู้ส่งออกไก่แปรรูปอันดับต้นๆ ของโลก ด้วยมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล สนับสนุนศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกอย่างมั่นคง
ส่วนโครงการฟาร์มวัวนม บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ ด้วยการลงทุนโครงการฟาร์มวัวนมบนพื้นที่กว่า 300 ไร่ในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยล่าสุดในไตรมาส 1/68 ได้ดำเนินการปรับหน้าดินแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงเรือนระบบปิดที่ควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรองรับสภาพอากาศแปรปรวน และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้นม ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนสรุปการนำเข้าสายพันธุ์วัว อุปกรณ์การเลี้ยง และระบบรีดนม คาดว่าจะเริ่มผลิตน้ำนมดิบล็อตแรกจำนวน 1,250 ตัวในไตรมาส 1/69 โดยธุรกิจฟาร์มวัวนมจะสร้างรายได้มากกว่ารายได้ฟาร์มไก่เนื้อถึง 2 เท่า เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้แบบรายวัน แตกต่างจากธุรกิจฟาร์มไก่ที่รับรู้ตามรอบเลี้ยง
ด้านผลประกอบการภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส 1/68 บริษัทมีรายได้จากการเลี้ยงไก่เนื้อตามพันธะมีรายได้จากการขาย 48 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.5 แสนบาท
********************
บทความที่เกี่ยวข้อง
MEDEZE ย้ำบทบาทผู้นำธนาคารสเต็มเซลล์ไทย นำทีมร่วมให้ข้อมูลแก่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ในงาน Analyst Meeting เน้นย้ำความแข็งแกร่งของธุรกิจธนาคารสเต็มเซลล์และบริการเซลล์ภูมิคุ้มกัน หรือ NK Cells ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบทบาทร่วมในโครงการ ATMPs Sandbox
20 มิ.ย. 2025
WEH อ้าแขนรับทรัพย์หลังผลการเสหนอขายหุ้นกู้ WEH ครั้งที่ 1/2568 ได้รับการตอบรับอย่างดี สะท้อนความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนช้ขยายกิจการ ลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างยั่งยืน
20 มิ.ย. 2025
AGE ส่งบริษัทในเครือ "เอจีอี เวนเจอร์ส" เปิดตัว "เอจีอี ออโต้ แกลเลอรี่" จับมือพันธมิตรแบรนด์รถยนต์ ขยายธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ มุ่งเน้นตลาดรถยนต์กลุ่ม EV และไฮบริด ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เตรียมเปิดโชว์รูม 9 แห่ง ตั้งเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท
20 มิ.ย. 2025