ITEL โชว์กำไร Q1/68 ที่ 28 ล.
อัพเดทล่าสุด: 18 พ.ค. 2025
15 ผู้เข้าชม
ITEL โชว์ผลงานไตรมาสแรกรับรู้รายได้ 807 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 28 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้รายได้บางส่วนถูกเลื่อนไป พร้อมเตรียมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ มั่นใจแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสถัดไปเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ปักธงอนาคต Cloud Implementor ระบุเป็นทิศทางสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่าง Data Center กับลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการในยุคดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ดร.ณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ผู้นำด้านบริการโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูงสุดครอบคลุมทั่วไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 โดยมีรายได้รวม 807 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 28 ล้านบาท ลดลง 60% เมื่อเทียบกับกำไรที่ไม่รวมกำไรจากการซื้อธุรกิจในช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้บางส่วนถูกเลื่อนไปในไตรมาสถัดไป จากปัจจัยด้านระยะเวลาในการอนุมัติโครงการบางส่วนที่ล่าช้ากว่ากำหนด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกจะไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่บริษัทได้ดำเนินการติดตามอย่างใกล้ชิด และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงคาดว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสถัดไปจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อล่าสุดบริษัทได้ประกาศความร่วมมือกับ สทป. จัดตั้งบริษัทร่วมทุน NDC เพื่อให้บริการที่ครอบคลุม ทั้งด้านระบบความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety) โซลูชันดิจิทัล (Digital Solutions) และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัย
สำหรับความร่วมมือดังกล่าว นับเป็นการผสานจุดแข็งที่ลงตัว ระหว่างความเชี่ยวชาญด้านโครงข่ายโทรคมนาคมของ ITEL กับองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศของ สทป. ซึ่งไม่เพียงสะท้อนวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงของประเทศอีกด้วย
"แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะมีความผันผวน แต่จุดแข็งของ ITEL คือฐานลูกค้าที่มีความสมดุลระหว่างภาครัฐประมาณ 40% และภาคเอกชน 60% ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยง และรักษาเสถียรภาพการเติบโตได้เป็นอย่างดี อีกทั้งไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ เทคโนโลยีด้านการเชื่อมต่อสื่อสารยังคงเป็นสิ่งจำเป็นที่คนยังต้องใช้อยู่เสมอ โดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นธุรกิจโทรคมนาคมเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการปรับทิศทางสู่การเป็น Cloud Implementor และต่อยอดไปยังธุรกิจเทคโนโลยีการแพทย์"
สำหรับบทบาท Cloud Implementor ซึ่งเป็นทิศทางสำคัญในปี 2568 นั้น ITEL จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่าง Data Center กับลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการในยุคดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะลูกค้าองค์กรที่กำลังปรับตัวสู่ Digital Transformation โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ในปีนี้ประมาณ 200-300 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจ Health Tech ซึ่งดำเนินการภายใต้ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เฮลธ์ เทคโนโลยี จำกัด (IHT) บริษัทเดินหน้าเปิดศูนย์ CT Scan 3 แห่งในปีนี้ ด้วยงบลงทุน 20-30 ล้านบาทต่อแห่ง โดยศูนย์แรกอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้ชื่อ "อินเตอร์ลิ้งค์ ซีที คลินิก สุราษฎร์ธานี" ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ ขณะที่อีก 2 ศูนย์ อยู่ระหว่างการพิจารณาพื้นที่ในการจัดตั้ง
"จากการปรับกลยุทธ์ธุรกิจ จึงคาดว่า ในปี 2568 บริษัทจะมีรายได้เติบโต 30% จากปีก่อนที่ทำได้ 2,518 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตแบบ Organic ที่มาจากกลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งจะต่างจากปีก่อนที่มีกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ และจากความเชี่ยวชาญด้านโครงข่ายที่สั่งสมมายาวนาน สู่การต่อยอดเป็น Cloud Implementor และผู้ให้บริการเทคโนโลยีการแพทย์ที่มีความทันสมัย ซึ่ง ITEL พร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติธุรกิจ ด้วยจุดแข็งด้านคุณภาพบริการและความรวดเร็วในการติดตั้ง ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของภาครัฐและภาคเอกชนไทยที่กำลังเร่งปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ" ดร.ณัฐนัย กล่าว
***********************
ดร.ณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ผู้นำด้านบริการโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูงสุดครอบคลุมทั่วไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 โดยมีรายได้รวม 807 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 28 ล้านบาท ลดลง 60% เมื่อเทียบกับกำไรที่ไม่รวมกำไรจากการซื้อธุรกิจในช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้บางส่วนถูกเลื่อนไปในไตรมาสถัดไป จากปัจจัยด้านระยะเวลาในการอนุมัติโครงการบางส่วนที่ล่าช้ากว่ากำหนด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกจะไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่บริษัทได้ดำเนินการติดตามอย่างใกล้ชิด และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงคาดว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสถัดไปจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อล่าสุดบริษัทได้ประกาศความร่วมมือกับ สทป. จัดตั้งบริษัทร่วมทุน NDC เพื่อให้บริการที่ครอบคลุม ทั้งด้านระบบความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety) โซลูชันดิจิทัล (Digital Solutions) และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัย
สำหรับความร่วมมือดังกล่าว นับเป็นการผสานจุดแข็งที่ลงตัว ระหว่างความเชี่ยวชาญด้านโครงข่ายโทรคมนาคมของ ITEL กับองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศของ สทป. ซึ่งไม่เพียงสะท้อนวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงของประเทศอีกด้วย
"แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะมีความผันผวน แต่จุดแข็งของ ITEL คือฐานลูกค้าที่มีความสมดุลระหว่างภาครัฐประมาณ 40% และภาคเอกชน 60% ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยง และรักษาเสถียรภาพการเติบโตได้เป็นอย่างดี อีกทั้งไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ เทคโนโลยีด้านการเชื่อมต่อสื่อสารยังคงเป็นสิ่งจำเป็นที่คนยังต้องใช้อยู่เสมอ โดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นธุรกิจโทรคมนาคมเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการปรับทิศทางสู่การเป็น Cloud Implementor และต่อยอดไปยังธุรกิจเทคโนโลยีการแพทย์"
สำหรับบทบาท Cloud Implementor ซึ่งเป็นทิศทางสำคัญในปี 2568 นั้น ITEL จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่าง Data Center กับลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการในยุคดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะลูกค้าองค์กรที่กำลังปรับตัวสู่ Digital Transformation โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ในปีนี้ประมาณ 200-300 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจ Health Tech ซึ่งดำเนินการภายใต้ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เฮลธ์ เทคโนโลยี จำกัด (IHT) บริษัทเดินหน้าเปิดศูนย์ CT Scan 3 แห่งในปีนี้ ด้วยงบลงทุน 20-30 ล้านบาทต่อแห่ง โดยศูนย์แรกอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้ชื่อ "อินเตอร์ลิ้งค์ ซีที คลินิก สุราษฎร์ธานี" ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ ขณะที่อีก 2 ศูนย์ อยู่ระหว่างการพิจารณาพื้นที่ในการจัดตั้ง
"จากการปรับกลยุทธ์ธุรกิจ จึงคาดว่า ในปี 2568 บริษัทจะมีรายได้เติบโต 30% จากปีก่อนที่ทำได้ 2,518 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตแบบ Organic ที่มาจากกลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งจะต่างจากปีก่อนที่มีกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ และจากความเชี่ยวชาญด้านโครงข่ายที่สั่งสมมายาวนาน สู่การต่อยอดเป็น Cloud Implementor และผู้ให้บริการเทคโนโลยีการแพทย์ที่มีความทันสมัย ซึ่ง ITEL พร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติธุรกิจ ด้วยจุดแข็งด้านคุณภาพบริการและความรวดเร็วในการติดตั้ง ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของภาครัฐและภาคเอกชนไทยที่กำลังเร่งปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ" ดร.ณัฐนัย กล่าว
***********************
บทความที่เกี่ยวข้อง
MEDEZE ย้ำบทบาทผู้นำธนาคารสเต็มเซลล์ไทย นำทีมร่วมให้ข้อมูลแก่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ในงาน Analyst Meeting เน้นย้ำความแข็งแกร่งของธุรกิจธนาคารสเต็มเซลล์และบริการเซลล์ภูมิคุ้มกัน หรือ NK Cells ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบทบาทร่วมในโครงการ ATMPs Sandbox
20 มิ.ย. 2025
WEH อ้าแขนรับทรัพย์หลังผลการเสหนอขายหุ้นกู้ WEH ครั้งที่ 1/2568 ได้รับการตอบรับอย่างดี สะท้อนความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนช้ขยายกิจการ ลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างยั่งยืน
20 มิ.ย. 2025
AGE ส่งบริษัทในเครือ "เอจีอี เวนเจอร์ส" เปิดตัว "เอจีอี ออโต้ แกลเลอรี่" จับมือพันธมิตรแบรนด์รถยนต์ ขยายธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ มุ่งเน้นตลาดรถยนต์กลุ่ม EV และไฮบริด ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เตรียมเปิดโชว์รูม 9 แห่ง ตั้งเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท
20 มิ.ย. 2025