FVC ฟอร์มสวย Q1/68 กำไรพุ่ง 106%
อัพเดทล่าสุด: 20 พ.ค. 2025
62 ผู้เข้าชม
FVC โชว์ฟอร์มเด่น เปิดงบไตรมาส 1/68 โกยกำไร 18.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เผยมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการ 278.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.31% ด้านแผนงานช่วงที่เหลือของปีนี้ เดินหน้าต่อยอดธุรกิจ พร้อมรุกขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเดิม หนุนรายได้โต 25% ตามเป้า
ดร.วิจิตร เตชะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/68 บริษัทมีกำไรสุทธิ 18.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.62% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการที่ 278.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.31% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับปัจจัยการเติบโตจากกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (B1) มีรายได้ 23.12 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย (B2) มีรายได้อยู่ที่ 86.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.98% และกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) มีรายได้อยู่ที่ 169.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.49%
ขณะที่ในปี 2568 ทาง FVC วางกลยุทธ์โดยมีทิศทางธุรกิจ แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (B1) ที่บริษัทยังมุ่งเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม ตามสภาวะการแข่งขันในตลาดรุนแรง รวมทั้งต้นทุนได้ปรับตัวสูงขึ้นจากสงครามการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลให้บริษัทตั้งเป้าขยายฐานลูกค้านอกจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเน้นจังหวัดที่มีประชากรสูง และมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ พร้อมเพิ่มทีมขายเพื่อเจาะลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อีกทั้งมีแผนคัดสรรหรือสร้างสินค้าเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่
สำหรับกลุ่มงานโครงการถึงแม้ว่าจะเกิดความล่าช้าของงานโครงการขนาดใหญ่ ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการประจำปี 2567 ที่ผ่านมา ทำให้ในปี 2568 บริษัทมีแผนทำงานด้านโครงการคู่ขนานกัน และมุ่งเน้นรับงานโครงการขนาดเล็กที่ทำงานเสร็จได้เร็ว เพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลงและรับงานโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาดำเนินโครงการนานเพื่อเป็นรายได้ในปีถัดไป
ส่วนกลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย (B2) มองว่า สถานการณ์ตลาดลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารและธุรกิจโรงแรมกลับมาดำเนินธุรกิจในสภาวะปกติ โดยมีแบรนด์ของร้านอาหารหรือเครื่องดื่มใหม่ๆ ทั้งที่เป็นการขยายกิจการจากผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของบริษัทเดิมหรือเป็นผู้ประกอบการใหม่ๆ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นบริษัทจึงมุ่งเน้นที่กลุ่มลูกค้าร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยได้เข้าไปมีส่วนการออกแบบคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของลูกค้าเพื่อให้ลูกค้านำผลผลิตที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ที่ได้ไปประกอบอาหารและเครื่องดื่มมีคุณภาพ เพื่อทำให้ผู้บริโภคพอใจ
ส่วนกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) โดยบริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ KTMS มีแผนสำหรับการขยายสาขาและเพิ่มเครื่องไตเทียมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า ภายในไตรมาสที่ 2/68 และเตรียมขยายสาขาเพิ่ม 1-2 สาขา และเครื่องไตเทียมประมาณ 6-24 เครื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องมีการพิจารณาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย
ด้านบริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด มีแผนเพิ่มเครื่องไตเทียมในไตรมาส 2/68 จำนวน 2-4 เครื่อง ขณะที่บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้อจากงานติดตั้งระบบน้ำจากลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 5 โครงการ มูลค่ารวม 5.25 ล้านบาท งานปรับปรุงหน่วยไตเทียม 2 โครงการ มูลค่า 2.13 ล้านบาท โดยคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/68 และบริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด (บริษัทย่อย) โดยในปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งท่อลมรับส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์จากลูกค้าแล้ว 1 โครงการ มูลค่ารวม 5.48 ล้านบาท โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้ง คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/68 และจากกลยุทธ์ดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนให้รายได้รวมของ FVC ในปี 2568 เติบโต 25% ตามแผนที่วางไว้
**********************
ดร.วิจิตร เตชะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/68 บริษัทมีกำไรสุทธิ 18.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.62% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการที่ 278.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.31% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับปัจจัยการเติบโตจากกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (B1) มีรายได้ 23.12 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย (B2) มีรายได้อยู่ที่ 86.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.98% และกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) มีรายได้อยู่ที่ 169.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.49%
ขณะที่ในปี 2568 ทาง FVC วางกลยุทธ์โดยมีทิศทางธุรกิจ แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (B1) ที่บริษัทยังมุ่งเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม ตามสภาวะการแข่งขันในตลาดรุนแรง รวมทั้งต้นทุนได้ปรับตัวสูงขึ้นจากสงครามการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลให้บริษัทตั้งเป้าขยายฐานลูกค้านอกจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเน้นจังหวัดที่มีประชากรสูง และมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ พร้อมเพิ่มทีมขายเพื่อเจาะลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อีกทั้งมีแผนคัดสรรหรือสร้างสินค้าเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่
สำหรับกลุ่มงานโครงการถึงแม้ว่าจะเกิดความล่าช้าของงานโครงการขนาดใหญ่ ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการประจำปี 2567 ที่ผ่านมา ทำให้ในปี 2568 บริษัทมีแผนทำงานด้านโครงการคู่ขนานกัน และมุ่งเน้นรับงานโครงการขนาดเล็กที่ทำงานเสร็จได้เร็ว เพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลงและรับงานโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาดำเนินโครงการนานเพื่อเป็นรายได้ในปีถัดไป
ส่วนกลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย (B2) มองว่า สถานการณ์ตลาดลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารและธุรกิจโรงแรมกลับมาดำเนินธุรกิจในสภาวะปกติ โดยมีแบรนด์ของร้านอาหารหรือเครื่องดื่มใหม่ๆ ทั้งที่เป็นการขยายกิจการจากผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของบริษัทเดิมหรือเป็นผู้ประกอบการใหม่ๆ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นบริษัทจึงมุ่งเน้นที่กลุ่มลูกค้าร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยได้เข้าไปมีส่วนการออกแบบคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของลูกค้าเพื่อให้ลูกค้านำผลผลิตที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ที่ได้ไปประกอบอาหารและเครื่องดื่มมีคุณภาพ เพื่อทำให้ผู้บริโภคพอใจ
ส่วนกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) โดยบริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ KTMS มีแผนสำหรับการขยายสาขาและเพิ่มเครื่องไตเทียมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า ภายในไตรมาสที่ 2/68 และเตรียมขยายสาขาเพิ่ม 1-2 สาขา และเครื่องไตเทียมประมาณ 6-24 เครื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องมีการพิจารณาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย
ด้านบริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด มีแผนเพิ่มเครื่องไตเทียมในไตรมาส 2/68 จำนวน 2-4 เครื่อง ขณะที่บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้อจากงานติดตั้งระบบน้ำจากลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 5 โครงการ มูลค่ารวม 5.25 ล้านบาท งานปรับปรุงหน่วยไตเทียม 2 โครงการ มูลค่า 2.13 ล้านบาท โดยคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/68 และบริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด (บริษัทย่อย) โดยในปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งท่อลมรับส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์จากลูกค้าแล้ว 1 โครงการ มูลค่ารวม 5.48 ล้านบาท โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้ง คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/68 และจากกลยุทธ์ดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนให้รายได้รวมของ FVC ในปี 2568 เติบโต 25% ตามแผนที่วางไว้
**********************
บทความที่เกี่ยวข้อง
ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้น ณ ห้วงเวลานี้ อาจพูดได้เต็มปากว่า สถานการณ์ปัจจุบันล้วนเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ เพราะในตลาดหุ้น มีหุ้นให้เลือกลงทุนมากมาย และใช่ว่าหุ้นทุกตัวจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งแน่นอนว่า จะมีหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวให้สามารถเลือกลงทุนได้
2 ก.ค. 2025
EA ประกาศแผนการปรับปรับเลื่อนกำหนดชำระหุ้นกู้ จากเดิมที่เคยเสนอเลื่อน 7 ปี เหลือเพียง 5 ปี พร้อมกำหนดชำระเงินต้นคืน โดยสิทธิประโยชน์ด้านดอกเบี้ยและเงื่อนไขอื่นยังคงเดิม ระบุเป็นการแสดงถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหา พร้อมเตรียมนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ครั้งหน้าในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้
1 ก.ค. 2025
DOD เผยอุตสาหกรรมกลุ่มธุรกิจเสริมอาหารครึ่งปีหลังยังคงขยายตัวตามเทรนด์คนรักสุขภาพ มั่นใจรายได้จากการผลิตผลิตภัณฑ์ ในฐานะผู้รับจ้างผลิต รวมทั้งยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Auswelllife ส่งผลตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปีแตะ 700-800 ล้านบาท พร้อมตอกย้ำภายในปีนี้เล็งจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น
1 ก.ค. 2025