MPJ รุกขยายฐานธุรกิจครบวงจร
อัพเดทล่าสุด: 26 พ.ค. 2025
54 ผู้เข้าชม
MPJ เดินเกมรุก ลุยต่อยอดใน 4 กลุ่มธุรกิจ ทั้งการขยายพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ เพิ่มการให้บริการขนส่งทางบกต่อเนื่องกับท่าเรือ การบริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งธุรกิจให้บริการให้เช่าคลังสินค้า ทั้งมีการนำนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุนในการปฎิบัติงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มั่นใจดันผลงานทั้งปีโตตามเป้าที่ 20%
นายสิษฐวัศ เลิศอมรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขายและการตลาด และ นายไพรัต ภูฆัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ ร่วมนำเสนอข้อมูล ภายในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยระบุว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขับเคลื่อน 4 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับดีมานด์กลุ่มลูกค้าที่ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจากแผนการขายธุรกิจดังกล่าวส่งผลให้ทิศทางครึ่งปีหลังเติบโตสอดรับกับเป้าการเติบโตในปีนี้ที่เพิ่มขึ้น 20%
สำหรับธุรกิจบริหารการจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ ปัจจุบันบอร์ดบริษัทได้รับการอนุมัติขยายพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ในพื้นที่แหลมฉบัง และดำเนินการทำเรื่องเพื่อขอกู้ยืมเงินสำหรับการลงทุนจากสถาบันการเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในเดือนมิถุนายนนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในไตรมาส 3/68 ส่งผลให้ MPJ มีปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ในการรองรับการใช้งานทั้งในส่วนของลูกค้าใหม่ และเก่าเพิ่มขึ้นอีก 100,000 TEU หรือคิดเป็น 50% ของความจุรวมของโครงการนี้ 200,000 TEU ส่วนการขยายพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์โปรเจคที่ 2 ซึ่งเป็นโปรเจคร่วมทุน เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วในไตรมาส 2/68 เพื่อให้ทันตามแผนที่จะเปิดดำเนินการภายในไตรมาส 4/68 ส่งผลให้ปริมาณตู้คอนเทนเนอร์รองรับการใช้งานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 120,000 TEU หรือ 60% ของความจุรวมของโครงการนี้ 200,000 TEU
ธุรกิจให้บริการขนส่งทางบกต่อเนื่องกับท่าเรือ ปัจจุบันมีการขยายเครือข่ายการขนส่งภายในประเทศให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงหาลูกค้าในอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ทั้งนี้ ได้มีการ Test run ในส่วนขยายเครือข่ายการขนส่งภายในประเทศไปแล้ว และคาดว่า ในไตรมาส 3/68 จะเริ่มให้บริการแบบครบวงจร ปัจจุบันมีรถบรรทุกที่ให้บริการทั้งหมด 215 คัน และยังมีรถบรรทุกพันธมิตรเป็นผู้รับจ้างงานช่วงอีกประมาณ 50-60 คัน อีกทั้งมีแผนการนำรถบรรทุก EV จากกลุ่มพันธมิตรเข้ามาใช้งานในปีนี้ 120 คัน จากปัจจุบัน 30 คัน จากปัจจัยดังกล่าว บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสในการขยายการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศกลุ่ม CLMV ล่าสุดได้มีการขยายเส้นทางการขนส่งสินค้าไปยัง สปป.ลาว และกัมพูชา
ธุรกิจให้บริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ยังคงเป้าหมายเดิมในการขยายส่วนแบ่งตลาดในภูมิภาคใหม่ๆ โดยเฉพาะตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ควบคู่กับการขยายตลาดในโซนเอเชีย รวมทั้งการศึกษาการขยายการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศเพิ่มทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
ธุรกิจให้บริการให้เช่าคลังสินค้า ล่าสุดบริษัทเตรียมแผนลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ในจังหวัดระยอง เฟส 2 ซึ่งมีพื้นที่ 18,000 ตรม. เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น โดยคลังสินค้าแห่งใหม่นี้จะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3/68 และคาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมรับรู้รายได้ในปี 2569 โดยปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าให้ความสนใจที่จะเข้ามาเช่าพื้นที่คลังสินค้าแล้ว 2-3 ราย ทั้งอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี และยังมีกลุ่มลูกค้าที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายราย อาทิ กลุ่มสินค้าคอสเมติก กลุ่มอาหาร โดยคาดว่าจะสรุปความชัดเจนได้ในเดือนตุลาคมนี้
พร้อมกันนี้ บริษัทยังศึกษาแผนการให้บริการ Service Warehouse เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่ม Warehouse ที่เช่าคลังสินค้าของ MPJ หรือกลุ่มลูกค้าที่เช่าคลังสินค้าที่อื่น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าดังกล่าวให้ความสนใจเช่าคลังสินค้าที่มีขนาด 7,000 ตร.ม. โดยเน้นทำเลใกล้กรุงเทพฯ ส่งผลให้บริษัทได้สำรวจพื้นที่เบื้องต้นไว้ 2 โซนคือ โซนเทพารักษ์ และโซนบางนา คาดว่าจะเริ่มให้บริการภายในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนในปี 2568 ไว้ที่ 554 ล้านบาท โดยจะใช้ในการลงทุนขยายกองรถสำหรับขนส่ง จำนวน 40 ล้านบาท ใช้ในการลงทุนขยายพื้นที่ลานจอดตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 194 ล้านบาท และใช้ในการลงทุนเพิ่มพื้นที่คลังสินค้า จำนวน 320 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ได้วางงบลงทุนและเดินหน้าขยายการลงทุนแล้ว อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (D/E ratio) ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 0.6 เท่า
"บริษัทมีการนำนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุนในการปฎิบัติงานของบริษัท โดยเริ่มจากการนำระบบการบริหารการจัดการรถเข้ามาใช้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของการเดินรถต่อวันสูงสุด ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลงและสร้างผลกำไรที่ดี รวมถึงการทำ Utilization (ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด) ผ่านระบบ ERP ด้วยการเก็บข้อมูลเข้ามารวมไว้ในระบบ เพื่อจะวิเคราะห์และนำมาใช้ในการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด"
***************************
นายสิษฐวัศ เลิศอมรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขายและการตลาด และ นายไพรัต ภูฆัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ ร่วมนำเสนอข้อมูล ภายในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยระบุว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขับเคลื่อน 4 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับดีมานด์กลุ่มลูกค้าที่ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจากแผนการขายธุรกิจดังกล่าวส่งผลให้ทิศทางครึ่งปีหลังเติบโตสอดรับกับเป้าการเติบโตในปีนี้ที่เพิ่มขึ้น 20%
สำหรับธุรกิจบริหารการจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ ปัจจุบันบอร์ดบริษัทได้รับการอนุมัติขยายพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ในพื้นที่แหลมฉบัง และดำเนินการทำเรื่องเพื่อขอกู้ยืมเงินสำหรับการลงทุนจากสถาบันการเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในเดือนมิถุนายนนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในไตรมาส 3/68 ส่งผลให้ MPJ มีปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ในการรองรับการใช้งานทั้งในส่วนของลูกค้าใหม่ และเก่าเพิ่มขึ้นอีก 100,000 TEU หรือคิดเป็น 50% ของความจุรวมของโครงการนี้ 200,000 TEU ส่วนการขยายพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์โปรเจคที่ 2 ซึ่งเป็นโปรเจคร่วมทุน เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วในไตรมาส 2/68 เพื่อให้ทันตามแผนที่จะเปิดดำเนินการภายในไตรมาส 4/68 ส่งผลให้ปริมาณตู้คอนเทนเนอร์รองรับการใช้งานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 120,000 TEU หรือ 60% ของความจุรวมของโครงการนี้ 200,000 TEU
ธุรกิจให้บริการขนส่งทางบกต่อเนื่องกับท่าเรือ ปัจจุบันมีการขยายเครือข่ายการขนส่งภายในประเทศให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงหาลูกค้าในอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ทั้งนี้ ได้มีการ Test run ในส่วนขยายเครือข่ายการขนส่งภายในประเทศไปแล้ว และคาดว่า ในไตรมาส 3/68 จะเริ่มให้บริการแบบครบวงจร ปัจจุบันมีรถบรรทุกที่ให้บริการทั้งหมด 215 คัน และยังมีรถบรรทุกพันธมิตรเป็นผู้รับจ้างงานช่วงอีกประมาณ 50-60 คัน อีกทั้งมีแผนการนำรถบรรทุก EV จากกลุ่มพันธมิตรเข้ามาใช้งานในปีนี้ 120 คัน จากปัจจุบัน 30 คัน จากปัจจัยดังกล่าว บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสในการขยายการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศกลุ่ม CLMV ล่าสุดได้มีการขยายเส้นทางการขนส่งสินค้าไปยัง สปป.ลาว และกัมพูชา
ธุรกิจให้บริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ยังคงเป้าหมายเดิมในการขยายส่วนแบ่งตลาดในภูมิภาคใหม่ๆ โดยเฉพาะตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ควบคู่กับการขยายตลาดในโซนเอเชีย รวมทั้งการศึกษาการขยายการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศเพิ่มทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
ธุรกิจให้บริการให้เช่าคลังสินค้า ล่าสุดบริษัทเตรียมแผนลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ในจังหวัดระยอง เฟส 2 ซึ่งมีพื้นที่ 18,000 ตรม. เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น โดยคลังสินค้าแห่งใหม่นี้จะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3/68 และคาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมรับรู้รายได้ในปี 2569 โดยปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าให้ความสนใจที่จะเข้ามาเช่าพื้นที่คลังสินค้าแล้ว 2-3 ราย ทั้งอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี และยังมีกลุ่มลูกค้าที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายราย อาทิ กลุ่มสินค้าคอสเมติก กลุ่มอาหาร โดยคาดว่าจะสรุปความชัดเจนได้ในเดือนตุลาคมนี้
พร้อมกันนี้ บริษัทยังศึกษาแผนการให้บริการ Service Warehouse เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่ม Warehouse ที่เช่าคลังสินค้าของ MPJ หรือกลุ่มลูกค้าที่เช่าคลังสินค้าที่อื่น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าดังกล่าวให้ความสนใจเช่าคลังสินค้าที่มีขนาด 7,000 ตร.ม. โดยเน้นทำเลใกล้กรุงเทพฯ ส่งผลให้บริษัทได้สำรวจพื้นที่เบื้องต้นไว้ 2 โซนคือ โซนเทพารักษ์ และโซนบางนา คาดว่าจะเริ่มให้บริการภายในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนในปี 2568 ไว้ที่ 554 ล้านบาท โดยจะใช้ในการลงทุนขยายกองรถสำหรับขนส่ง จำนวน 40 ล้านบาท ใช้ในการลงทุนขยายพื้นที่ลานจอดตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 194 ล้านบาท และใช้ในการลงทุนเพิ่มพื้นที่คลังสินค้า จำนวน 320 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ได้วางงบลงทุนและเดินหน้าขยายการลงทุนแล้ว อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (D/E ratio) ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 0.6 เท่า
"บริษัทมีการนำนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุนในการปฎิบัติงานของบริษัท โดยเริ่มจากการนำระบบการบริหารการจัดการรถเข้ามาใช้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของการเดินรถต่อวันสูงสุด ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลงและสร้างผลกำไรที่ดี รวมถึงการทำ Utilization (ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด) ผ่านระบบ ERP ด้วยการเก็บข้อมูลเข้ามารวมไว้ในระบบ เพื่อจะวิเคราะห์และนำมาใช้ในการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด"
***************************
บทความที่เกี่ยวข้อง
MEDEZE ย้ำบทบาทผู้นำธนาคารสเต็มเซลล์ไทย นำทีมร่วมให้ข้อมูลแก่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ในงาน Analyst Meeting เน้นย้ำความแข็งแกร่งของธุรกิจธนาคารสเต็มเซลล์และบริการเซลล์ภูมิคุ้มกัน หรือ NK Cells ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบทบาทร่วมในโครงการ ATMPs Sandbox
20 มิ.ย. 2025
WEH อ้าแขนรับทรัพย์หลังผลการเสหนอขายหุ้นกู้ WEH ครั้งที่ 1/2568 ได้รับการตอบรับอย่างดี สะท้อนความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนช้ขยายกิจการ ลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างยั่งยืน
20 มิ.ย. 2025
AGE ส่งบริษัทในเครือ "เอจีอี เวนเจอร์ส" เปิดตัว "เอจีอี ออโต้ แกลเลอรี่" จับมือพันธมิตรแบรนด์รถยนต์ ขยายธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ มุ่งเน้นตลาดรถยนต์กลุ่ม EV และไฮบริด ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เตรียมเปิดโชว์รูม 9 แห่ง ตั้งเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท
20 มิ.ย. 2025