ORN มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง
ORN เผยทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากยอดขายรอโอนมูลค่ากว่า 2,590 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป พร้อมเตรียมเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,640 ล้านบาท ทั้งจ่อบุ๊ครายได้โรงเรียนนานาชาติ Mill Hill International School Thailand คอมมูนิตี้มอลล์ THE BACKYARD เสริมรายได้ประจำ สร้างความมั่นคงระยะยาว มุ่งเน้นบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รักษาสภาพคล่องการเงิน
นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ ORN เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังมีแนวโน้มโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) กว่า 2,590 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป ขณะที่ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยของไทยยังคงอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่และภูเก็ต โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว การกลับมาของนักลงทุนต่างชาติจากจีน รัสเซีย และยุโรปตะวันออก รวมถึง เทรนด์ Remote Work / Work from Anywhere ที่กระตุ้นความต้องการบ้านพักในหัวเมืองท่องเที่ยวที่มีคุณภาพชีวิตดี อีกทั้งนโยบายภาครัฐที่เอื้อต่ออสังหาริมทรัพย์ เช่น มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน จดจำนอง และนโยบายดึงนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ORN ได้วางกลยุทธ์รับมืออย่างรอบคอบ โดยเน้นพัฒนาโครงการแนวราบและแนวสูงที่มีศักยภาพ ออกแบบโครงการให้ยืดหยุ่น มีพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้งานได้จริง รองรับทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติที่ต้องการที่อยู่อาศัยระยะยาว ควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และปรับโครงสร้างราคาให้เหมาะสมกับภาวะสินเชื่อ เพื่อกระจายกลุ่มเป้าหมาย ครอบคลุมผู้ซื้อบ้านหลังแรก นักลงทุน และชาวต่างชาติ อีกทั้งสร้างโอกาสขยายฐานรายได้ประจำ เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,640 ล้านบาทในช่วงครึ่งปี 2568 ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี THE ASTRA3 บนทำเลศักยภาพ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และ โครงการคอนโดฯ Low-Rise The Next 7 ยอด3 ตอบโจทย์ Lifestyle ของคนในเมือง ใกล้ทุกการเดินทางย่านเจ็ดยอด มูลค่าโครงการ 140 ล้านบาท
สำหรับโรงเรียนนานาชาติ Mill Hill International School Thailand ได้รับใบอนุญาตประกอบสถานศึกษาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยในปีแรกที่จะเปิดทำการเรียนการสอนในเดือนกันยายน 2568 นี้ ได้รับความสนใจจากนักเรียนสมัครเข้าศึกษามากกว่า 200 ราย แม้จะมีเกณฑ์การรับนักเรียนที่เข้มงวด โดยใช้ข้อสอบเดียวกับโรงเรียนต้นสังกัดในประเทศอังกฤษ ทำให้สามารถรับนักเรียนได้ประมาณ 100 คน
ส่วนระดับชั้นอนุบาลถึง Year 6 (อายุ 3-11 ปี) ปัจจุบันอาคารอำนวยการและอาคารเรียนสำหรับชั้นปฐมวัยได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเรียบร้อย และอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างในเฟสที่ 2 และ 3 เพื่อรองรับการขยายการเรียนการสอนไปจนถึง Year 13 ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ โรงเรียนมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการศึกษาและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับนักเรียนอย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกระดับชั้นต่อไป อีกทั้งเตรียมเปิดให้บริการคอมมูนิตี้มอลล์ THE BACKYARD อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีร้านค้าจองพื้นที่แล้วกว่า 50% ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมรายได้และสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัท
************************