แชร์

WHAUP ปิดดีลโซลาร์กลุ่ม "สหฟาร์ม"

อัพเดทล่าสุด: 8 ก.ค. 2025
24 ผู้เข้าชม

WHAUP ประสบความสำเร็จในโครงการโซลาร์ รวม 14 โครงการ ขนาดการผลิต 46.47 เมกะวัตต์ ให้กับกลุ่มสหฟาร์ม บริษัทชั้นนำในภาคธุรกิจการเกษตร จัดพิธีส่งมอบพลังงานไฟฟ้า 2 โครงการหลัก ทั้งโครงการ Solar Farm และ Solar Floating พร้อมกดปุ่ม COD ได้ในช่วงไตรมาส 4/68

               นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการโครงการโซลาร์ จำนวน 14 โครงการ ให้แก่กลุ่มบริษัทสหฟาร์ม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจเกษตรกรรมของไทย นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนนอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้จะนำไปใช้สนับสนุนกิจการในเครือสหฟาร์ม ทั้งโรงเชือด โรงแปรรูป โรงเลี้ยงไก่ โรงฟักไข่ และโรงงานผลิตอาหารสัตว์ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท

               ทั้งนี้  เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568  WHAUP ได้จัดพิธีส่งมอบพลังงานไฟฟ้า ณ 2 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการโซลาร์ฟาร์ม ของบริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด ขนาด 20 เมกะวัตต์ บนพื้นที่ 168,916 ตารางเมตร หรือราว 105 ไร่ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และโครงการโซลาร์ลอยน้ำ ของบริษัท สหฟาร์ม จำกัด ขนาด 9.7 เมกะวัตต์ บนพื้นที่บ่อน้ำ 84,694 ตารางเมตร หรือประมาณ 52 ไร่ ที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งทั้งสองแห่งมีกำลังผลิตรวม 29.7 เมกะวัตต์ และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 22,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ต่อปี (tCO2e)

               นายอัครินทร์ ประเทืองสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ WHAUP กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้ง 14 โครงการ ประกอบด้วยระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ในรูปแบบ Solar Farm, Solar Floating และ Solar Rooftop รวมกำลังการผลิต 46.47 เมกะวัตต์ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 35,000 tCO2e ต่อปี โดยคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาส 4/68 ซึ่งเมื่อรวมกับโครงการอื่นๆ จะทำให้ WHAUP มีกำลังผลิตไฟฟ้าสะสมสำหรับการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นเป็น 200 เมกะวัตต์

               ทั้งนี้ WHAUP ให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพลังงานอย่างรอบด้าน การบริหารจัดการระบบทั้งหมดผ่าน ศูนย์ควบคุมส่วนกลาง Unified Operation Center (UOC) ที่ซึ่งสามารถตรวจสอบการผลิต การใช้และประสิทธิภาพของระบบโซลาร์เซลล์ได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถส่งมอบพลังงานสะอาดได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด สนับสนุนเป้าหมาย Go Green ของสหฟาร์มได้อย่างแท้จริง

               ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ ประธานสายบัญชีและการเงิน และเลขานุการคณะกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับ WHAUP ในโครงการโซลาร์ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผน Go Green ที่มุ่งพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างรอบด้าน ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม สอดคล้องกับแนวคิดของผู้บริหารยุคใหม่ที่เชื่อว่าธุรกิจควรสร้างคุณค่าในระยะยาวให้แก่สังคมมากกว่าการมุ่งหวังเพียงผลกำไร โดยอาศัยความเชี่ยวชาญระดับสากลของ WHAUP ในการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดเป็นกลยุทธ์หลักของการเปลี่ยนผ่านองค์กร

               นอกจากนี้ แผน Go Green ยังมุ่งยกระดับการใช้พลังงานสะอาดในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง ไปจนถึงระบบโลจิสติกส์ พร้อมเดินหน้าแผนศึกษาการนำยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มาใช้ภายในองค์กร และเตรียมต่อยอดโครงการโซลาร์เฟส 2 และเฟส 3 อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมการใช้พลังงานหมุนเวียนในทุกหน่วยธุรกิจอย่างแท้จริง

               "โครงการ Go Green เป็นไปตามปณิธานของ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ผู้ก่อตั้งบริษัทสหฟาร์ม ที่ปรารถนาให้สหฟาร์มเป็นผู้นำการใช้พลังงานสะอาดและเป็นองค์กรสีเขียวอย่างแท้จริง เชื่อว่าการประยุกต์ใช้นวัตกรรมพลังงานสะอาดจะช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับอุตสาหกรรมเกษตรไทย" ดร.จารุวรรณกล่าว

               นางสาวบุญญาลักษณ์ โชติเทวัญ กรรมการบริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด กล่าวว่า สหฟาร์มในฐานะผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ครบวงจรที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 54 ปี ยึดมั่นในหลักการโปร่งใส ยุติธรรม และการดูแลสิ่งแวดล้อม โครงการโซลาร์เซลล์ที่ใช้พื้นที่กว่า 300 ไร่ รองรับการผลิตไก่มากกว่า 700,000 ตัวต่อวัน ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 30% คิดเป็นมูลค่าประหยัดกว่า 100 ล้านบาทต่อปี หรือรวม 1,600 ล้านบาทตลอดระยะเวลาสัญญาซื้อขาย 14 ปี ซึ่งเป็นการยืนยันขั้นตอนสำคัญขององค์กรในการมุ่งสู่ความยั่งยืนอย่างจริงจัง

               "โครงการนี้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 870,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายใน 25 ปี และมากกว่า 1,000,000 ตัน ภายใน 30 ปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 56 ล้านต้น สะท้อนความมุ่งมั่นของ WHA Group ในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมก้าวสู่เป้าหมาย NET ZERO ภายในปี 2050 อย่างเป็นรูปธรรม ตอกย้ำพันธกิจ WHA: WE SHAPE THE FUTURE ในการขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม" นางสาวบุญญาลักษณ์ กล่าว



***********************


บทความที่เกี่ยวข้อง
Maxbit เปิดตัวระบบ Grid Trading
Maxbit พร้อมผลักดันนวัตกรรมการลงทุนคริปโตฯ ไปอีกขั้น ผ่านการเปิดตัวระบบ "Grid Trading" เป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย ระบุเป็นระบบที่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ผู้ลงทุนสามารถกำหนดช่วงราคาการเทรดเองได้
8 ก.ค. 2025
YLG มองทองคำมีลุ้นแตะ 3,500 ดอลลาร์
YLG เปิดปัจจัยหนุนราคาทองคำ ระบุยังมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คาดปีนี้ทองคำยังมีลุ้นที่ 3,500 ดอลลาร์ หากผ่านได้มีโอกาสพุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดที่ 3,650 ดอลลาร์ หลังครึ่งปีแรกราคาพุ่งแล้ว 25% พร้อมเปิดสถิติย้อนหลัง 20 ปี พบผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึงปีละ 9.36%
8 ก.ค. 2025
GBS แนะหุ้นหลบภัยช่วงตลาดขาลง
GBS ประเมินภาพรวมหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงปรับตัวลงต่อ หลังผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีไทยในอัตรา 36% กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนเรื่องขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีการค้าโลก แนะกลยุทธ์ลหลบภัยช่วงตลาดหุ้นขาลง ชู ADVANC, PR9, TISCO, BGRIM เด่น
8 ก.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy