MPJ เปิดพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์
อัพเดทล่าสุด: 8 ก.ค. 2025
10 ผู้เข้าชม
MPJ เตรียมเปิดพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ 2 โครงการย่านทำเลทองโลจิสติกส์ ลาดกระบัง แหลมฉบัง ต่อยอดการขนส่ง และท่าเรือ รองรับดีมานด์กลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ภายใต้กลยุทธ์การขยายการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศกลุ่ม CLMV รับโอกาสการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งใหม่ มั่นใจช่วยหนุนผลงานปีนี้โตที่ระดับ 20% ตามแผน
นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ ผู้นำโลจิสติกส์แบบครบวงจรและผู้นำด้านบริหารลานตู้คอนเทนเนอร์ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดให้บริการพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการลาดกระบังและโครงการแหลมฉบัง ตามแผนและนโยบายการขยายพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ ภายใต้งบลงทุน 194 ล้านบาท เพื่อรองรับดีมานด์กลุ่มลูกค้าที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามกลยุทธ์การขยายการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศกลุ่ม CLMV ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ถือเป็นพื้นที่บนทำเลทองซึ่งเป็นจุดยุทธ์ศาสตร์ ด้านโลจิสติกส์ของประเทศ
สำหรับโครงการลานตู้คอนเทนเนอร์ในพื้นที่ลาดกระบัง มีพื้นที่ดิน 24.30 ไร่ จัดเป็นทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และมีทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด ทำให้สามารถเชื่อมโยงการขนส่งได้ครบทุกเส้นทาง โดยคาดว่าจะเริ่ม Operate ได้ในช่วงปลายไตรมาส 3/68 นี้ และสามารถรองรับการใช้งานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 3,125 TEUs หรือประมาณการตู้เข้าออกทั้งปีที่ 240,000 TEUs โดยคาดว่าสร้างรายได้ให้กับบริษัทในปีแรกที่ 100 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 123 ล้านบาทในปีถัดไป
ส่วนโครงการลานตู้คอนเทนเนอร์ในพื้นที่แหลมฉบัง จัดเป็นพื้นที่บนทำเลที่ตอบโจทย์การค้าและโลจิสติกส์ระดับโลก เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ส่งเสริมการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ดังนั้น การลงทุนลานตู้คอนเทนเนอร์จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยบริษัทได้เตรียมพัฒนาและก่อสร้างลานตู้คอนเทนเนอร์ บนพื้นที่ 19.37 ไร่
ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่ม Operateได้ในช่วงกลางไตรมาส 4/68 นี้ ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 3,000 TEUs หรือประมาณการตู้เข้าออกทั้งปีที่ 200,000 TEUs และคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทในปีแรกที่ 50 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านบาท ในปีถัดไป
อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาวะท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์การค้าของสหรัฐฯ และจีน ย่อมส่งผลต่อภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นห่วงโซ่อุปทานของโลก ที่มีการปรับเปลี่ยนทั้งต้นทุน การขนส่ง และเส้นทางใหม่ จึงเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีแนวโน้มจะได้รับโอกาสเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งใหม่ ส่งผลให้ MPJ เล็งเห็นโอกาสและช่องทางต่อยอดทางธุรกิจ จึงปรับกลยุทธ์รองรับการขยายการให้บริการใน 4 กลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง ที่พร้อมผลักดันและสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้โตตามแผนที่วางไว้ที่ระดับ 20% เมื่อเทียบจากปีก่อน
**********************
นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ ผู้นำโลจิสติกส์แบบครบวงจรและผู้นำด้านบริหารลานตู้คอนเทนเนอร์ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดให้บริการพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการลาดกระบังและโครงการแหลมฉบัง ตามแผนและนโยบายการขยายพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ ภายใต้งบลงทุน 194 ล้านบาท เพื่อรองรับดีมานด์กลุ่มลูกค้าที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามกลยุทธ์การขยายการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศกลุ่ม CLMV ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ถือเป็นพื้นที่บนทำเลทองซึ่งเป็นจุดยุทธ์ศาสตร์ ด้านโลจิสติกส์ของประเทศ
สำหรับโครงการลานตู้คอนเทนเนอร์ในพื้นที่ลาดกระบัง มีพื้นที่ดิน 24.30 ไร่ จัดเป็นทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และมีทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด ทำให้สามารถเชื่อมโยงการขนส่งได้ครบทุกเส้นทาง โดยคาดว่าจะเริ่ม Operate ได้ในช่วงปลายไตรมาส 3/68 นี้ และสามารถรองรับการใช้งานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 3,125 TEUs หรือประมาณการตู้เข้าออกทั้งปีที่ 240,000 TEUs โดยคาดว่าสร้างรายได้ให้กับบริษัทในปีแรกที่ 100 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 123 ล้านบาทในปีถัดไป
ส่วนโครงการลานตู้คอนเทนเนอร์ในพื้นที่แหลมฉบัง จัดเป็นพื้นที่บนทำเลที่ตอบโจทย์การค้าและโลจิสติกส์ระดับโลก เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ส่งเสริมการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ดังนั้น การลงทุนลานตู้คอนเทนเนอร์จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยบริษัทได้เตรียมพัฒนาและก่อสร้างลานตู้คอนเทนเนอร์ บนพื้นที่ 19.37 ไร่
ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่ม Operateได้ในช่วงกลางไตรมาส 4/68 นี้ ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 3,000 TEUs หรือประมาณการตู้เข้าออกทั้งปีที่ 200,000 TEUs และคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทในปีแรกที่ 50 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านบาท ในปีถัดไป
อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาวะท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์การค้าของสหรัฐฯ และจีน ย่อมส่งผลต่อภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นห่วงโซ่อุปทานของโลก ที่มีการปรับเปลี่ยนทั้งต้นทุน การขนส่ง และเส้นทางใหม่ จึงเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีแนวโน้มจะได้รับโอกาสเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งใหม่ ส่งผลให้ MPJ เล็งเห็นโอกาสและช่องทางต่อยอดทางธุรกิจ จึงปรับกลยุทธ์รองรับการขยายการให้บริการใน 4 กลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง ที่พร้อมผลักดันและสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้โตตามแผนที่วางไว้ที่ระดับ 20% เมื่อเทียบจากปีก่อน
**********************
บทความที่เกี่ยวข้อง
Maxbit พร้อมผลักดันนวัตกรรมการลงทุนคริปโตฯ ไปอีกขั้น ผ่านการเปิดตัวระบบ "Grid Trading" เป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย ระบุเป็นระบบที่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ผู้ลงทุนสามารถกำหนดช่วงราคาการเทรดเองได้
8 ก.ค. 2025
YLG เปิดปัจจัยหนุนราคาทองคำ ระบุยังมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คาดปีนี้ทองคำยังมีลุ้นที่ 3,500 ดอลลาร์ หากผ่านได้มีโอกาสพุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดที่ 3,650 ดอลลาร์ หลังครึ่งปีแรกราคาพุ่งแล้ว 25% พร้อมเปิดสถิติย้อนหลัง 20 ปี พบผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึงปีละ 9.36%
8 ก.ค. 2025
GBS ประเมินภาพรวมหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงปรับตัวลงต่อ หลังผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีไทยในอัตรา 36% กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนเรื่องขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีการค้าโลก แนะกลยุทธ์ลหลบภัยช่วงตลาดหุ้นขาลง ชู ADVANC, PR9, TISCO, BGRIM เด่น
8 ก.ค. 2025