GFC ท็อปฟอร์ม กำไรงวด 9 เดือนโต 14.22%
GFC โชว์งบ 9 เดือนแรกกำไร 62.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.22% ส่วนรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 283.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.47% ขณะที่ไตรมาส 3/67 รายได้จากการให้บริการแตะ 92.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.92%
นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปีนี้ บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 283.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.17 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.47 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 254.42 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ผลดำเนินการเติบโต เนื่องจากจำนวนผู้มีบุตรยากที่เข้ามาทำการรักษาในช่วง 3 เดือนแรกของปีมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นอานิสงส์จากความต้องการมีบุตรในปีมังกร ขณะที่จำนวนรอบของการเก็บไข่สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2567 เพิ่มขึ้นจำนวน 28 รอบ หรือคิดเป็น 4.15% ขณะที่กำไรสุทธิในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 62.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14.22 ส่วนอัตรากำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนแรก เท่ากับร้อยละ 22.12 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.53
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/67 มีรายได้จากการให้บริการจำนวน 92.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.92 เป็นผลมาจากจำนวนผู้เข้ารับบริการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับบริษัทรับรู้รายได้จากบริษัท จีเอฟซี อุบล จำกัด (GFC Ubon) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เปิดดำเนินการให้การรักษาผู้มีบุตรยากในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 10.54 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.83 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/67 ที่มีรายได้จากการให้บริการ 82.11 ล้านบาท เนื่องมาจากจำนวนรอบของการเก็บไข่ เพิ่มขึ้น 29 รอบ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.29 เป็นผลมาจากการทำการตลาดในช่องทางต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่อยู่ที่ 16.52 ล้านบาท
"ในไตรมาส 3 ตลาดรักษาผู้มีบุตรยากยังคงมีการเติบโต พร้อมทั้งยังมีการขยายพื้นที่การให้บริการ โดยเริ่มเปิดให้บริการสาขา จีเอฟซี อุบล ในส่วนการให้คำปรึกษาเบื้องต้น และการทำแผนการตลาดที่เข้มแข็ง รวมถึงการดูแลและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้รับบริการ ซึ่งส่งผลให้สามารถรักษาความพึงพอใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/67 ที่มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 12.82% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า"
สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดการณ์ว่าจะยังคงรักษาระดับรายได้จากการให้บริการได้อย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับจากการขยายพื้นที่การให้บริการมากขึ้นจากการเปิดให้บริการสาขา จีเอฟซี อุบล ทั้งให้คำปรึกษาภาวะผู้มีบุตรยาก การรับฝากครรภ์ และการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากด้วยวิธี IUI และได้ให้บริการการรักษาแบบเต็มรูปแบบในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2567 ประกอบกับกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อเพิ่มการรับรู้ในแบรนด์ และดึงดูดลูกค้ารายใหม่เข้าสู่ระบบ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ภาพรวมของผลการดำเนินในช่วงโค้งสุดท้ายมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมอุตสาหกรรมการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากมีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วโลก เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด และปัจจัยทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น อายุเฉลี่ยของการมีบุตรที่สูงขึ้น, ความสนใจในเรื่องสุขภาพการเจริญพันธุ์และการขยายตัวของการรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ เช่น การใช้ AI ในการคัดเลือกตัวอ่อนที่ดีที่สุด รวมถึงการพัฒนาวิธีการรักษาใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต รวมถึงการที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ในส่วนของเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะการรักษาภาวะมีบุตรยาก ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวแปรที่ส่งผลให้ความต้องการบริการทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น
****************************