CFARM ย้ำรายทั้งปีได้ใกล้เคียงเป้า
CFARM ย้ำผลงานปี 2567 รายได้ยังคงเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพในการผลิต มองตลาดฐานเดิมมีแนวโน้มฟื้นตัว พร้อมเดินหน้าลุยทำฟาร์มโคนม ตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้นในตลาด สร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว
นายชูรัตน์ จึงธนสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) หรือ CFARM ประกอบธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ ประเภทฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อให้กับคู่สัญญาในรูปแบบเกษตรพันธสัญญาแบบประกันราคา เปิดเผยว่า ผลประกอบการภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 รายได้จากการเลี้ยงไก่เนื้อตามพันธะมีรายได้จากการขาย 154 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.37 ล้านบาท
ส่วนแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีแผนกลยุทธ์การตลาดของฟาร์มไก่เนื้อยังคงมุ่งเน้นไปที่ตลาดที่มีอยู่ แม้ว่าตลาดไก่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวและเติบโตขึ้น ซึ่งบริษัทมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ที่มีความเสถียร โดยแนวโน้มของฟาร์มไก่เนื้อในปีนี้ ตลาดการบริโภคในประเทศ และการส่งออกยังคงมีสัดส่วนเดิม โดยคาดว่าปี 2567 รายได้ยังคงเป็นไปตามที่วางไว้ แม้ในบางไตรมาสจะมีค่าใช้จ่ายบ้าง เช่น ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ในไตรมาสที่ 2 และการพักเล้าของคู่สัญญา ซึ่งส่งผลกระทบทำให้รอบการเลี้ยงลดลง สำหรับภาพรวมประสิทธิภาพการเลี้ยงยังเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ แม้ว่ารายได้อาจต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย แต่บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงาน เพื่อรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพในการผลิต
สำหรับแผนการลงทุนอุตสาหกรรมโค เป็นการตอบสนองต่อความต้องการที่สูงขึ้นในตลาด โดยคาดหวังว่า การลงทุนในโคนมจะช่วยสร้างโอกาสในการเติบโตและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทในระยะยาว อีกทั้งการมีแหล่งรายได้ที่หลากหลายจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับบริษัท และยังถือเป็นช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจในชุมชนอีกด้วย โดยอุตสาหกรรมโคที่บริษัทลงทุนมีขนาด 1,250 ตัว พร้อมอาคารสิ่งปลูกสร้างและเครื่องจักรการผลิตน้ำนมดิบเฉลี่ย 17 ล้านลิตรต่อปี บนที่ดินของบริษัท ที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 419.58 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตนมเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 1/69
"อุตสาหกรรมโคนม จากที่บริษัทได้ทำการสำรวจและศึกษาแล้ว พบว่ามีดีมานด์ที่ค่อนข้างสูง และในประเทศต้องการที่จะส่งเสริมให้ใช้เป็นนมโคในประเทศมากกว่า อยากให้มีการส่งเสริมใช้นมโคของประเทศมากขึ้น อย่างช่วงโควิดที่ผ่านมา เกษตรกรที่เป็นรายย่อยขายวัวออกไปค่อนข้างมาก ทำให้ซัพพลายของนมขาดไป ทางบริษัทก็มองเห็นถึงช่องโหว่ ตรงนี้เลยลองมาจับธุรกิจด้านนี้ แล้วก็ลองศึกษาดู แล้วมันก็ค่อนข้างเป็นไปได้" นายชูรัตน์ กล่าว
************************