PCC คว้าโครงการใหม่ มูลค่ากว่า 273 ล.
อัพเดทล่าสุด: 20 ธ.ค. 2024
117 ผู้เข้าชม
PCC ลงนามคว้างานใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 273 ล้านบาท ดัน Backlog เพิ่มต่อเนื่อง มั่นใจดันรายได้ทั้งปีโตตามเป้าที่ระดับ 10% จากปีก่อน พร้อมมองภาพรวมอุตสาหกรรมไฟฟ้ายังมีศักยภาพในการเติบโต ย้ำความพร้อมพัฒนาธุรกิจและพลังงานให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืน
นายกิตติ สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ PCC ผู้ให้บริการโซลูชั่นนวัตกรรมด้านดิจิทัลกริดอัจฉริยะ (Smart Grid Digitalization) เปิดเผยว่า บริษัท พรีไซซ ซิสเท็ม แอนด์ โปรเจ็ค จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น ร้อยละ 99.96 ได้ลงนามคว้างานใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 273.67 ล้านบาท เป็นสัญญางานจ้างเหมาปรับปรุงยกระดับสายส่งรองรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคูู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ตามแผนหลัก จํานวน 8 จุด รวม 6 สายส่ง กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มูลค่าสัญญารวม 56,745,786.15 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีกําหนดการส่งมอบภายใน 210 วัน นับถัดจากวันที่ผู้ว่าจ้างกําหนดให้เริ่มดําเนินงาน
สัญญางานจัดหาและก่อสร้างระบบ จําหน่าย 22kV Underground และ งานระบบ Low Voltage สําหรับจ่ายให้บ้านในโครงการ Reignwood กับ บริษัท อาร์ดับบลิว กรีนแลนด์ จํากัด มูลค่าสัญญารวม 197,161,422.33 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และสัญญาซื้อขาย TOU Meter with RS232port, 50(150) A, 230/400 V 3 Phase 4 Wire จํานวน 3,300 เครื่อง ด้วยวิธีคัดเลือกกับการไฟฟ้านครหลวง มูลค่าสัญญารวม 19,773,600.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีกําหนดการส่งมอบเป็น 2 งวด ภายใน 180 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา
"บริษัทได้รับงานใหม่เพิ่มอีก 3 โครงการ ซึ่งทำให้มูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้และสร้างการเติบโตของบริษัทในอนาคตอย่างยั่งยืน"
ขณะที่ผลการดำเนินงานในปีนี้ มั่นใจว่ารายเติบโต 10% จากปีก่อน สะท้อนจากผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2567 ของกลุ่มบริษัทที่มีรายได้รวม 4,307.95 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 28.49% เทียบช่วงปีก่อนมีรายได้ 3,352.84 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ มองว่าภาพรวมอุตสาหกรรมไฟฟ้ายังมีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะสมาร์ทกริด (Smart Grid) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้าให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการระบบไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการบูรณาการพลังงานหมุนเวียน เข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าได้อย่างเสถียร ซึ่ง Smart Grid จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายไฟฟ้า ลดการสูญเสียพลังงานในระบบ สามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาไฟฟ้าขัดข้องได้เร็วขึ้น ซึ่งบริษัทมีความพร้อมจะพัฒนาธุรกิจและพลังงานให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืน จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแพลตฟอร์มครอบคลุมอุตสาหกรรม Smart Grid ของประเทศไทย
***********************
นายกิตติ สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ PCC ผู้ให้บริการโซลูชั่นนวัตกรรมด้านดิจิทัลกริดอัจฉริยะ (Smart Grid Digitalization) เปิดเผยว่า บริษัท พรีไซซ ซิสเท็ม แอนด์ โปรเจ็ค จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น ร้อยละ 99.96 ได้ลงนามคว้างานใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 273.67 ล้านบาท เป็นสัญญางานจ้างเหมาปรับปรุงยกระดับสายส่งรองรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคูู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ตามแผนหลัก จํานวน 8 จุด รวม 6 สายส่ง กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มูลค่าสัญญารวม 56,745,786.15 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีกําหนดการส่งมอบภายใน 210 วัน นับถัดจากวันที่ผู้ว่าจ้างกําหนดให้เริ่มดําเนินงาน
สัญญางานจัดหาและก่อสร้างระบบ จําหน่าย 22kV Underground และ งานระบบ Low Voltage สําหรับจ่ายให้บ้านในโครงการ Reignwood กับ บริษัท อาร์ดับบลิว กรีนแลนด์ จํากัด มูลค่าสัญญารวม 197,161,422.33 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และสัญญาซื้อขาย TOU Meter with RS232port, 50(150) A, 230/400 V 3 Phase 4 Wire จํานวน 3,300 เครื่อง ด้วยวิธีคัดเลือกกับการไฟฟ้านครหลวง มูลค่าสัญญารวม 19,773,600.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีกําหนดการส่งมอบเป็น 2 งวด ภายใน 180 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา
"บริษัทได้รับงานใหม่เพิ่มอีก 3 โครงการ ซึ่งทำให้มูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้และสร้างการเติบโตของบริษัทในอนาคตอย่างยั่งยืน"
ขณะที่ผลการดำเนินงานในปีนี้ มั่นใจว่ารายเติบโต 10% จากปีก่อน สะท้อนจากผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2567 ของกลุ่มบริษัทที่มีรายได้รวม 4,307.95 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 28.49% เทียบช่วงปีก่อนมีรายได้ 3,352.84 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ มองว่าภาพรวมอุตสาหกรรมไฟฟ้ายังมีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะสมาร์ทกริด (Smart Grid) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้าให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการระบบไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการบูรณาการพลังงานหมุนเวียน เข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าได้อย่างเสถียร ซึ่ง Smart Grid จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายไฟฟ้า ลดการสูญเสียพลังงานในระบบ สามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาไฟฟ้าขัดข้องได้เร็วขึ้น ซึ่งบริษัทมีความพร้อมจะพัฒนาธุรกิจและพลังงานให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืน จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแพลตฟอร์มครอบคลุมอุตสาหกรรม Smart Grid ของประเทศไทย
***********************
บทความที่เกี่ยวข้อง
ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้น ณ ห้วงเวลานี้ ความเคลื่อนไหวของดัชนีฯ หาความแน่นอนแทบไม่ได้ ต้องติดตามสถานการณ์รอบด้านอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจากต่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใเข้ามาสันบสนุน แถมยังมีปัญหาทางการเมืองเข้ามากดดัน ทำให้บรรยากาศการลงทุนซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด
2 มิ.ย. 2025
MEDEZE ก้าวล้ำอีกขั้น ได้รับการตคัดเลือกให้เข้าโครงการ ATMPs Sandbox ร่วมเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูง สำหรับการรักษาเชิงลึกแบบเฉพาะบุคคล เริ่มต้นจาก 3 กลุ่มโรคที่พบมากในประเทศไทย ระบุถือเป็นการนับ 1 "สเต็มเซลล์เท่ากับยา"
2 มิ.ย. 2025
NUT ประกาศความพร้อมส่ง 37 ล้านหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai เคาะราคาเสนอขาย IPO ที่ 6.80 บาทต่อหุ้น เสนอขาย 4-6 มิถุนายน คาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก 11 มิถุนายนนี้ ชูจุดเด่นเป็นผู้นำด้านการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารครบวงจร
2 มิ.ย. 2025
